Aug 31, 2009

Tense - ตอนที่ 4

ฟิสิกส์ 1_12-5

ฟิสิกส์ 1_10-6

Aug 29, 2009

โรสบีฟซอสครีม




ส่วนผสมสำหรับ 2-3 ที่

  • เนื้อสันในโคขุนหั่นชิ้นหนา 4 ชิ้น
  • เบคอนหั่นยาว 3-4 ชิ้น
  • ถั่วลองบีนหั่นท่อน 300 กรัม
  • มะเขือเทศเนื้อลอกเปลือกควักไส้ทิ้งสับ 1 ผล
  • น้ำมันมะกอก 1 ช้อนโต๊ะ
  • เนย 1 ช้อนโต๊ะ
  • เกลือเล็กน้อย

เครื่องปรุงซอสครีม

  • เนย 1-2 ช้อนโต๊ะ
  • แป้งข้าวโพด 1 ช้อนโต๊ะ
  • โรสแมรี่สดเด็ด 1 ช่อ
  • น้ำอบเนื้อ 1/2 ถ้วย
  • วิปปิ้งครีม 75 มล.
  • เกลือพริกไทยบดหยาบตามชอบ

วิธีทำ
1. ผัดถั่วกับเนยพอสุกปรุงรสด้วยเกลือเล็กน้อยจัดใส่จานเตรียมไว้ พันเบคอนรอบชิ้นเนื้อสันกลัดให้แน่นทาน้ำมันมะกอกโรยเกลือให้ทั่วนำไปย่างจนสุกตามชอบนำไปจัดลงบนถั่วผัดเนยพร้อมมะเขือเทศสับ
2. เสิร์ฟพร้อมครีมซอสที่ได้จากการผัดและเคี่ยวเครื่องปรุงน้ำซอสทั้งหมดเข้าด้วยกันจนข้น พร้อมเสิร์ฟ


ขอขอบคุณ

มะเร็งถุงน้ำดี และท่อน้ำดี


รูปประกอบจากอินเทอร์เน็ต
รูปประกอบจากอินเทอร์เน็ต



สาเหตุ


พบว่า มีความสัมพันธ์กับนิ่วในถุงน้ำดี ส่วนสาเหตุ ของมะเร็งท่อน้ำดี มักเกิดจาก พยาธิใบไม้ในตับ และสารก่อมะเร็งพวก ไนโตรซามีนส์ ซึ่งอยู่ในสารถนอมอาหาร พวกดินประสิว นิ่วในตับก็มีความสัมพันธ์ ์กับมะเร็งท่อน้ำดีในตับ


อาการ
มักมีอาการเหมือนถุงน้ำดีอักเสบ คือ เจ็บปวด ชายโครงขวา ถุงน้ำดีโต ท้องอืด ปวดท้อง น้ำหนักลด มีไข้ หรือเป็นดีซ่าน อาการของ มะเร็งท่อน้ำดีมักทำให้เกิดอาการของดีซ่าน มีไข้ ปวดท้อง


การตรวจวินิจฉัย
ใช้วิธีการตรวจเลือดดูว่ามีดีซ่านหรือไม่ ใช้ อุลตร้าซาวด์หรือคอมพิวเตอร์ตรวจดูก้อนใน ถุงน้ำดี และ ท่อน้ำดี และในกรณีที่มีอาการ อุดตันท่อน้ำดีจะใช้วิธีการตรวจพิเศษ คือ การฉีดสีเข้าไป ในท่อน้ำดี เพื่อดูว่าส่วน ใดที่มีการอุดตัน และวินิจฉัยแยกจากโรค อื่น การเจาะเลือดเพื่อดูสารที่มะเร็งถุงน้ำดี ปล่อยออกมาที่เรียกว่า ทูเมอร์ มาร์คเกอร์ ก็ช่วยในการวินิจฉัยได้ดี


การรักษา
การผ่าตัดเป็นวิธีที่ดีที่สุด มะเร็งถุงน้ำดีจะผ่าตัด โดย ตัดถุงน้ำดี และบางครั้งต้องตัดตับบางส่วนพร้อม ต่อมน้ำเหลืองรอบข้างไปด้วย มะเร็งท่อน้ำดีจะตัด ท่อน้ำดีและอวัยวะข้างเคียงออกด้วย แต่ในกรณีที่ ผ่าตัดออกไม่ได้ การผ่าตัดเพื่อบรรเทาอาการดีซ่านก็ ยังเป็นวิธีการรักษาแบบประคับประคองที่ดีที่สุด การ ลดอาการดีซ่านอาจใช้วิธีใส่ท่อเข้าไปในท่อน้ำดีผ่าน ทางผิวหนัง (PTBD)หรือการผ่าตัด การให้ยาเคมีบำบัด มักไม่ได้ผลแต่เป็นการบรรเทาอาการ การใช้รังสีรักษา มักใช้ในรายที่ผ่าตัด ไม่ได้แต่ เพื่อบรรเทาอาการและ ประคับประคองเท่านั้น หรือบางครั้งอาจช่วยเสริม การผ่าตัดได้


อัตราเสี่ยง
มะเร็งของถุงน้ำดี พบได้น้อยกว่ามะเร็งท่อน้ำดี และพบ ในผู้มีอายุ 40 ปี ขึ้นไปและพบในเพศหญิงมากกว่าเพศชาย ส่วนมะเร็งท่อน้ำดีพบในเพศชายมากกว่าเพศหญิง



ขอขอบคุณข้อมูลจาก สถาบันมะเร็งแห่งชาติ

หอยตลับผัดฉ่า



เครื่องปรุง

น้ำมันพืช 2 ช้อนโต๊ะ

กระเทียมสับละเอียด 2 ช้อนโต๊ะ

พริกขี้หนูสับละเอียด 2 ช้อนโต๊ะ

หอยตลับพร้อมเปลือก 500 กรัม

พริกไทยสดตัดเป็นช่อ 20 กรัม

ใบมะกรูดฉีกก้านกลาง 10 ใบ

กระชายซอย 1/4 ถ้วยจวง

ซีอิ๊วขาวสูตร 1 1 ช้อนโต๊ะ

ซอสหอยนางรม 2 ช้อนโต๊ะ

น้ำพริกเผา 2 ช้อนโต๊ะ

น้ำตาลทราย 2 ช้อนชา

ใบโหระพา 1/4 ถ้วยตวง

พริกชี้ฟ้าแดง เขียว เหลืองหั่นแฉลบ 3 เม็ด

ใบกะเพราทอดกรอบ สำหรับโรยหน้า

พริกชี้ฟ้าแดงซอยเป็นเส้น สำหรับโรยหน้า


วิธีทำ

1. ใส่น้ำมันพืชลงในกระทะ ตั้งไฟพอร้อน ใส่กระเทียมและพริกขี้หนูลงผัดจนมีกลิ่นหอม ใส่หอยตลับลงผัด ตามด้วยพริกไทยสด ใบมะกรูด และกระชาย

2. ปรุงรสด้วยซีอิ๊วขาวสูตร 1 ซอสหอยนางรม น้ำพริกเผา และน้ำตาลทราย ผัดจนเข้ากันดี ใส่ใบโหระพา และพริกชี้ฟ้าผัดให้เช้ากัน โรยหน้าด้วยใบกะเพราทอดกรอบ พริกชี้ฟ้าพร้อมรับประทาน



ที่มา http://variety.teenee.com

มะเร็งกระดูก

อาการของมะเร็งกระดูก
อาการของมะเร็งกระดูก


"มะเร็ง" โรคร้ายที่เป็นสาเหตุการตายที่สำคัญในปัจจุบัน มะเร็งส่วนใหญ่สามารถบำบัดได้ และหลายชนิดที่สามารถรักษาให้หายขาดได้ โดยเฉพาะถ้าได้รับการบำบัดตั้งแต่เริ่มแรก... วันนี้เราจะพาเพื่อนๆ ไปทำความรู้จักกับ "มะเร็งกระดูก" มะเร็งที่พบได้น้อยมาก แต่ถ้าหากเป็นแล้ว อาการมักจะรุนแรงและกระจายไปสู่อวัยวะอื่นได้รวดเร็วมาก ส่วนใหญ่จะพบในคนอายุต่ำกว่า 35 ปี โดยเฉพาะในช่วงอายุ 10 - 20 ปี

ทั้งนี้ มะเร็งกระดูกถูกแบ่งออกเป็น 2 ชนิด คือ... "มะเร็งที่แพร่กระจายมาจากมะเร็งของอวัยวะอื่น" เช่น จากต่อมลูกหมาก เต้านม ไทรอยด์ ฯลฯ โดยมักเกิดที่กระดูกแบนๆ เช่น กระดูกเชิงกราน กระดูกซี่โครง กระดูกกระโหลกศีรษะ เป็นต้น และ "มะเร็งที่เกิดกับกระดูกโดยตรง" คือ มะเร็งที่เกิดจากเซลล์ของกระดูก ซึ่งพบได้น้อยกว่าชนิดแรก มักจะเป็นที่กระดูกของแขน ขา เป็นส่วนใหญ่ ส่วนน้อยเกิดบริเวณกระดูกขากรรไกร

สำหรับสาเหตุของการเกิดโรคมะเร็งกระดูกนั้น เช่นเดียวกับมะเร็งชนิดอื่นๆ คือยังไม่ทราบสาเหตุที่แน่นอน แต่มีสาเหตุบางประการซึ่งอาจเป็นปัจจัยเสริมให้เกิดมะเร็งของกระดูกได้ เช่น กระดูกได้รับอันตรายจากการหกล้ม และผู้ที่ได้รับสารกัมมันตรังสีบางอย่าง เช่น เรเดียม สตรอนเซียม ก็จะมีโอกาสเป็นมะเร็งของกระดูกได้มากกว่าคนธรรมดา


แผ่น X-ray มะเร็งกระดูก
แผ่น X-ray มะเร็งกระดูก


อาการ

จะพบว่ามีก้อนแข็งหรือปุ่มยื่นออกมาจากกระดูก ก้อนจะโตเร็ว ต่อมาจะมีอาการปวดร่วมด้วย บางรายมาด้วยอาการกระดูกหักแตกได้ง่ายจากการกระทบกระเทือนเพียงเล็กน้อย

การวินิจฉัย

แพทย์จะตรวจร่างกายอย่างละเอียด มักต้องอาศัยการเอ็กซเรย์ร่วมด้วย บางรายแพทย์อาจตัดชิ้นเนื้อไปตรวจดูทางพยาธิวิทยา เพื่อการวินิจฉัยที่ถูกต้องแม่นยำ และวางแผนการรักษาต่อไป

การรักษา

โดยทั่วไปอาศัยการผ่าตัดเป็นหลัก และอาจใช้การฉายแสงหรือยาเคมีบำบัดร่วมด้วยในบางกรณี

ข้อพึงปฏิบัติ

มะเร็งกระดูก แม้พบได้น้อย แต่เมื่อเป็นแล้วจะมีความรุนแรงมาก ผู้ป่วยจะมีอาการทรุดอย่างรวดเร็ว การวินิจฉัยโรคเร็ว และให้การรักษาโดยฉับพลัน จึงเป็นหัวใจของความอยู่รอด ดังนั้น เมื่อความผิดปกติเกิดขึ้นแก่กระดูก เช่น มีก้อนเกิดขึ้นบริเวณแขน ขา กระดูก โดยเฉพาะอย่างยิ่งในเด็กวัยเรียน ควรรีบปรึกษาแพทย์โดยเร็ว อย่าลังเลใจ เพื่อแพทย์จะได้แนะนำและให้การรักษาต่อไป



ขอขอบคุณข้อมูลจาก
- uboncancer.org
- nci.go.th
- http://variety.teenee.com

แม่อายุมากเสี่ยงคลอดทารกดาวน์

หญิงตั้งครรภ์ตอนอายุมากเสี่ยงสูงคลอดทารกดาวน์ซินโดรม ขณะที่หญิงตั้งครรภ์อายุน้อยมีความเสี่ยงเช่นกัน แต่มีเปอร์เซ็นต์น้อยกว่า

พญ.ปิยะรัตน์ สัมฤทธิ์ประดิษฐ์ สูตินรีแพทย์ สาขาเวชศาสตร์มารดาและทารกในครรภ์ โรงพยาบาลบีเอ็นเอช กล่าวว่า ปัจจุบันผู้หญิงไทยแต่งงานช้าลง ดังนั้นการเกิดความกังวลของคุณผู้หญิงอายุสามสิบขึ้นไปต่อการมีลูกเมื่ออายุมากก็จะมีมาก เนื่องจากกลุ่มผู้หญิงดังกล่าว เวลาตั้งครรภ์จะมีความเสี่ยงต่อการเกิดทารกดาวน์ทั้งสิ้น โดยความเสี่ยงจะเพิ่มตามอายุที่มากขึ้น โดยเฉพาะผู้หญิงวัย 35 ปี ขึ้นไปถือว่ามีความเสี่ยงสูงต่อการตั้งครรภ์ทารกดาวน์สูง ซึ่งมีความเสี่ยง 1 ใน 270 ราย และจะเพิ่มขึ้นตามอายุ โดยสาเหตุที่พบบ่อยเกิดจากโครโมโซมมีความผิดปกติ

ส่วนผู้หญิงที่อายุต่ำกว่า 35 ปี คุณหมอบอกว่า ยังมีโอกาสตั้งครรภ์ทารกดาวน์ได้ แต่ความเสี่ยงไม่สูงมากนัก เช่น ผู้หญิงอายุ 25 ปี จะมีความเสี่ยงประมาณ 1 ใน 1,000 ราย ซึ่งตรงนี้การตรวจคัดกรองจะมีประโยชน์มาก เพราะในคุณแม่อายุน้อย ความเสี่ยงไม่สูงพอที่จะมีข้อบ่งชี้ในการเจาะน้ำคร่ำ แต่ก็ยังมีโอกาสเกิดทารกดาวน์ได้

สำหรับการตรวจคัดกรองโดยการเจาะเลือดมารดาหรือวิธีอื่นๆ ก็มีประโยชน์มากเช่นกันในการช่วยเพิ่มความไวในการตรวจทารกดาวน์ได้มากขึ้น ซึ่งวิธีการตรวจมี 2 วิธี ด้วยกัน คือ วิธี NT+PAPP-A (การตรวจวัดความหนาเนื้อเยื้อคอทารก+การเจาะระดับสาร (PAPP-A) เป็นการตรวจตั้งแต่สามเดือนแรกของการตั้งครรภ์ และวิธีที่สองคือการตรวจ Triple Screening หรือ Triple Test เป็นการตรวจในช่วงอายุครรภ์ 14-24 สัปดาห์ แต่ควรทำที่อายุครรภ์ ที่เหมาะสมที่สุดคือ16-20 สัปดาห์)

การตรวจโครโมโซมทารกในครรภ์ และการเจาะน้ำคร่ำ โดยคุณแม่ที่อยู่ในภาวะความเสี่ยงสูงต่อการเกิดความผิดปกติของโครโมโซมทารกในครรภ์ ได้แก่ คุณแม่ที่ตั้งครรภ์เมื่ออายุ 35 ปีขึ้นไป คุณแม่มีประวัติบุตรมีโครโมโซมผิดปกติหรือการตรวจคัดกรองเป็นผลบวก ซึ่งอายุครรภ์ที่สามารถเจาะน้ำคร่ำได้คือตั้งแต่ 1 สัปดาห์ขึ้นไป และอายุครรภ์ที่เหมาะสมควรอยู่ในช่วงระหว่าง 16-20 สัปดาห์

"การดูแลตัวเองให้พร้อมก่อนที่จะเป็นแม่ด้วยการตรวจคัดกรองการตั้งครรภ์ ของทารกกลุ่มอาการดาวน์ (First Trimester Screening) และตรวจความผิดปกติของการตั้งครรภ์ จึงมีความจำเป็นอย่างยิ่ง ช่วยตรวจคัดกรองและช่วยลดความกังวลใจให้กับคุณผู้หญิงที่แต่งงานช้าหรือมีลูกตอนอายุมาก ได้เป็นอย่างดี" พญ.ปิยะรัตน์ กล่าว


ที่มา http://women.sanook.com

ฟิสิกส์ 1_3-13

ฟิสิกส์ 1_2-5

ฟิสิกส์ 1_1-11

ฟิสิกส์ 1_1-7

Aug 28, 2009

*บทความจากน้าเน๊ก...**"**จริงของมัน**"..**ชอบ ๆ ๆ*




*อีืกหน่อยเราก็ตายจากกัน......แล้วนะ - ข้อคิดดี ๆ จากน้าเน๊ก
เกตุเสพย์สวัสดิ์ *


1. คนเราอายุเฉลี่ย 60 ปี 1 ปี เท่ากับ 365 วัน แสดงว่าแต่ละคนมีเวลาบนพื้นโลก21,900 วัน คิดปลีกย่อยไปกว่านั้นก็ 525,600 นาที ลองนับเป็นสัปดาห์ อืม......... ไม่เลว 3,120 สัปดาห์ อุแม่เจ้า......... แสดงว่า เรามีโอกาสเที่ยวในคืนวันเสาร์สามพันกว่าครั้งเท่านั้นเอง คิดแบบนี้แล้วไม่กล้าดูนาฬิกา แทบเบือนหน้าหนีจากปฏิทิน เพราะมันไม่ต่างอะไรกับการนับถอยหลังเพื่อรอวันลาโลก.... เปล่าเลยผมไม่ได้กลัวตาย และขอโทษที่หากเรื่องอาจไม่ค่อยขำ แต่ตลอดเวลาที่ใช้เวลาอยู่บนโลกนี้มันน้อยมากหากคำนวนในเชิงตัวเลข


*ยังมีหนังสืออีกหลายเล่มที่ยังไม่ได้อ่าน
*เพลงอีกหลายเพลงยังไม่ได้ฟัง
*หนังอีกหลายเรื่องที่ยังไม่ได้ดู


ความรู้สึกในใจอีกมากมายที่ยังไม่เคยบอก พื้นที่อีกหลายล้านตารางกิโลเมตรที่ยังไม่เคยไป โอ๊ย..... กลุ้ม
สองหมื่นกว่าวันที่เราได้รับมามัน น้อยเกินไปจริง ๆ และที่น่ากลุ้มไปกว่านั้นคือ ใช่ว่าทุกคนจะอยู่ถึง 60 ปี
แน่นอน 1 ปี ยังเท่ากับ 365 วัน นั่นแสดงว่าบางคนไม่ได้มีเวลาบนพื้นโลก 21,900 วันหรอกนะ อาจไม่ถึง 3,120 สัปดาห์ซะด้วยซ้ำ!


อุแม่เจ้าเทค 2


คืนวันเสาร์ที่จะได้ไปเที่ยวเหลือไม่ถึง สามพันวันแล้วเหรอเนี่ย!!!! คิดแบบนี้ต้องรีบยกนาฬิกาขึ้นมาดู กางปฏิทินออกกว้าง ๆ เพราะมันคือเวลาที่เราเหลือ.... บนโลกนี้ นี่ชั้นกำลังทำบ้าบออะไรอยู่.....ไม่เลยน้องสาว
นี่ไม่ใช่ปรัชญางี่เง่าอะไรทั้งสิ้น หากเป็นความจริงที่ เราไม่ค่อยได้มองมัน เอาล่ะ งั้นสมมติว่าทุกคนอายุ 17 ปี แปลว่าใช้ชีวิตมาแล้ว 6,205 วัน และผ่านคืนวันเสาร์มาร้อยกว่าครั้ง ส่วนหน่วยนาทีนั้น ...... คำนวณเองบ้างซิว้อยย..... เอาเวลาที่ใช้ไปนั้น หักลบกับเวลา ( ที่คาดว่าจะ) เหลืออยู่ ผลลัพธ์ที่ได้ เราจะทำยังไงกับมันดี ..... แต่น่าแปลก หลายคนยังยอมทำงานน่าเบื่อนั่งเอา


หัวตากแอร์ไปวัน ๆ ยอม


ให้คนที่ไม่ใช่พ่อใช่แม่จิกหัวใช้ เพื่ออะไรบางอย่างที่เราเรียกว่า ' เงินเดือน ' บางคนทนเรียนอะไรก็ไม่รู้อยู่ 4 ปี ทั้ง ๆ ที่ไม่รู้ว่าชอบหรือเปล่า รู้แต่ว่าแม่ชอบ ไม่ก็เห็นแค่ว่าเพื่อนเรียน เพียงแค่ตอบตัวเองไม่ได้ว่ากูจะเป็นอะไรดี


*บางคนแอบรักเขา ซุ่มเลิฟอยู่อย่างนั้น**
**ปล่อยให้ความรู้สึกที่ดีลอยไปหาคนอื่น**
**แต่กลับปล่อยให้ใจตัวเองเหลืออยู่แต่ความ**
**รู้สึกต่ำต้อยได้ทุกวัน ทุกวัน ทุกวัน**
**บางคนกินทิฐิเป็นอาหาร เก๊กใส่กันไปวัน ๆ**
**ต่างฝ่ายต่างรอให้อีกฝ่ายง้อ มึงแน่ กูแน่ งอนการกุศล**
**ประชดทำลายสถิติ เชิดหยิ่งชิงชนะเลิศ....ไอ้บ้า *


และอีกหลายคนนิยมกิจกรรม ' ฆ่าเวลา ' ชีวิตมันว่างจัด ขนาดต้องฆ่าเวลากันเลย บอกตรง ๆ เห็นแล้วอยากตบกบาล เอ็งกำลังทำลายทรัพย์สินที่มีค่าที่สุดที่มนุษย์ทุกคนพึงจะมี อีกหน่อยเราก็ตายจากัน ...... แล้วนะ ลองคิดแบบนี้บ้าง ใช่แล้ว .... เราจะเกิดความเสียดาย เพราะเหลืออีกหมื่นแสนล้านที่เรายังไม่ได้ทำ
ตายได้ไง หากฝันไม่สำเร็จ ไม่ได้หมายความว่าเราจะไม่ยอมตาย


*แต่ให้รีบทำทุกอย่าง ก่อนที่จะตาย ... ซึ่งจะเป็นวันไหนก็ไม่รู้**
**และในเมื่อเราไม่รู้ว่าเมื่อไหร่ ...**
**มาเตรียมการรอรับวาระสุดท้ายของเราดีกว่า**
**เอาแบบตายวันตายพรุ่งก็จะได้นอนตายตาหลับ**
**ใช้ชีวิตโดยคิดซะว่า....พรุ่งนี้ฉันจะตายแล้ว**
**ทำงานในสิ่งที่เรารัก เสมือนว่าเราจะไม่ได้ทำมันอีก *


ตามความฝันของเราไปสุดโต่ง ...ต้องรีบแล้ว เดี๋ยวตายนะ...เตือนแล้วไง


*รักให้หมดใจ บอกเขาไปทั้งหมดที่ความรู้สึกมี**
**ส่วนจะรักหรือไม่รักกู ไม่สนว้อย ... เพราะพรุ่งนี้ชั้น(อาจจะ** ) **ตายแล้ว*
*
**ใช้เวลา ( ที่อาจจะ) สุดท้ายที่มีต่อกันไว้**
**กอดกันเหมือนว่านี่เป็นกอดครั้งสุดท้ายของเรา นุ่มนวลที่สุดเท่าที่จะทำได้ **
**เพราะอย่างน้อย ๆ เราจะได้มีสีหน้าที่ยิ้มแย้มตอนให้สัมภาษณ์ยมบาล *


....... คนข้างบ้านเดินแป้นแล้นมาบอกข่าวดี ลูกสาววัย 23 กำลังจะแต่งงาน ในมือมีซองสีชมพูพร้อมการ์ด
ลูกสาวอยู่ต่างจังหวัดกับคู่หมั้น แม่เลยต้องมาแจกการ์ดเอง เมื่อกี๊ว่าที่เจ้าสาวเพิ่งโทรมาปรึกษาแม่เรื่องชุดแต่งงาน......... หลังจากนั้น 3 ชั่วโมง เธอตาย ...... แต่กว่าคนเป็นแม่จะรู้ข่าวร้าย ก็ปาไป 5 วัน ซองในมือผม กลายเป็นเงินช่วยงานศพ ช่อดอกไม้ กลายเป็นพวงหรีด และทั้งหมดกลายเป็นแรงบันดาลใจ ที่อยากจะบอก
ว่าอีกหน่อยเราก็ตายจากกัน .... แล้วนะ * **อ้าว.... รู้งี้ยังจะมาอ้อยสร้อยอะไรกันอีก *


รีบ แยกย้ายไปใช้เวลาที่เราเหลืออยู่ไปทำทุกอย่างที่เรายังไม่ได้ ทำ


*เดี๋ยวตายซะก่อน** .... เสียดายแย่ *


*โดย น้าเน๊ก ...... เกตุเสพย์สวัสดิ์ ปาละกะวงศ์ ณ อยุธยา *

สมุนไพรแก้โรคกระเพาะอาหาร

ยาสมุนไพรสำหรับงานสาธารณสุขมูลฐาน


โรคกระเพาะอาหาร

โรคกระเพาะอาหาร (peptic ulce) หมายถึงอาการปวดแสบ ปวดต้อ ปวดเสียด หรือจุกแน่น ตรงบริเวณใต้ลิ้นปี่ (เหนือสะดือ) เวลาก่อนรับประทานอาหารหรือหลังรับประทานอาหารใหม่ ๆ สาเหตุสำคัญของโรคกระเพาะคือ ความเครียด (วิตกกังวล คิดมาก เคร่งเครียดกับการงาน การเรียน) พฤติกรรมการรับประทานอาหารผิดเวลา และการรับประทานอาหารที่ระคายเคืองต่อกระเพาะอาหารและลำไส้เช่น เหล้า เบียร์ แอสไพริน (ยาแก้ปวด ยาซอง) ยาแก้ปวดข้อ ยาชุด หรือยาลูกกลอนที่ใส่สเตียรอยด์ เครื่องดื่มชูกำลัง ที่เข้าสารคาเฟอีน เป็นต้น การรักษาโรคกระเพาะ โดยการรับประทานยา และดูแลสุขภาพ ของตนเอง ดังนี้

ก. รับประทานอาหารให้ตรงเวลา

ข. รับประทานอาหาร 3 มื้อตามปกติ
(ถ้าปวดมากในระยะแรก ควรรับประทานอาหารอ่อนที่ย่อยง่าย เช่นข้าวต้ม) อย่ารับประทานอาหารรสเผ็ดจัด เปรี้ยวจัด ไม่จำเป็นต้องแบ่งรับประทานอาหารทีละน้อยแต่บ่อยมื้อขึ้นดังที่เคยแนะนำกันในอดีต เพราะยิ่งรับประทานมากนอกจากจะทำให้น้ำหนักขึ้นแล้ว (ต้องคอยลดความอ้วนอีก) ยังอาจจทำให้อาการกำเริบได้ง่ายอีกด้วยคนที่เป็นโรคกระเพาะบางครั้งอาจรู้สึกหิวง่ายก็ควรรับประทาน ยาลด กรดแทนนมหรือข้าว

ค. งดเหล้า เบียร์ ชา กาแฟ เครื่องดื่มชูกำลัง น้ำอัดลม และบุหรี่
เพราะจะทำให้โรคกำเริบได้

ง. ห้ามรับประทานยาแอสไพริน ยาแก้ปวดข้อ ยาที่เข้าเตรียรอยด์
(ในรายที่จำเป็นต้องใช้ยาเหล่านี้รักษาโรคอื่น ควรปรึกษาแพทย์)

จ. คลายเครียดด้วยการออกกำลังกาย
(เช่น วิ่งเหยาะ เดินเร็ว ขี่จักรยาน ว่ายน้ำ รำมวยจีน โยคะ เต้นแอโรบิก) หรือทำสมาธิ สวดมนต์ ไหว้พระ หรือเจริญภาวนาตามศาสนาที่ตัวเองนับถือ คนที่เป็นโรคกระเพาะเนื่องจากความเครียด การปฏิบัติในข้อนี้ จะมีส่วนช่วยให้โรคหายขาดได้

ยาสมุนไพรที่ใช้รักษาโรคกระเพาะอาหาร คือ





1. ขมิ้นชัน
ชื่อวิทยาศาสตร์ Curcuma longa Linn., Curcuma domesticaVal. ชื่อท้องถิ่น ขมิ้น (ทั่วไป) ขมิ้นแกง ขมิ้นหยวก ขมิ้นหัว (เชียงใหม่) ขี้มิ้น หมิ้น(ใต้) ตายอ (กะเหรี่ยง-กำแพงเพชร) สะยอ (กะเหรี่ยง-แม่ฮ่องสอน) ลักษณะของพืช ขมิ้นมีถิ่นกำเนิดในเขตร้อนของทวีปเอเชีย ประเทศอินเดีย จีน และหมู่เกาะ อินเดียตะวันออกปัจจุบันมีการปลูกเป็นพืชเศรษฐกิจ อย่างแพร่หลายในประเทศเขตร้อน ขมิ้นเป็นพืชล้มลุก มีเหง้าอยู่ใต้ดิน อายุหลายปี ถึงฤดูแล้งใบจะโทรม เมื่อย่างเข้าฤดูฝนเริ่มแตกใบขึ้นมาใหม่เนื้อในของเหง้ามีสีเหลืองเข้มจนถึงสีแสดเข้ม มีกลิ่นหอมเฉพาะ ใบเป็นใบเดี่ยว ก้านยาว ใบเหนียว เรียวและปลายแหลม กว้าง 12-15 ซม. ยาว 30-40 ซม. ดอกเป็นดอกช่อ มีก้านช่อแทงจากเหง้าโดยตรง ดอกย่อยสีเหลืองอ่อน กลีบประดับสีเขียวอมชมพู ดอกบานครั้งละ 3-4 ดอก ผลรูปกลม มี พู
ส่วนที่ใช้เป็นยา เหง้าแห้ง ช่วงเวลาที่เก็บเป็นยา เก็บเมื่อขมิ้นอายุราว 7-9 เดือน รสและสรรพคุณยาไทย รสฝาด กลิ่นหอมแก้โรคผิวหนัง ผื่นคัน ขับลม ท้องร่วง ข้อมูลทางวิทยาศาสตร์ เหล้าขมิ้นมีน้ำมันหอมระเหยประมาณร้อยละ 22-6 เป็นน้ำมันสีเหลือง มีสารหลายชนิด คือ Turmerone, Zingiberene, Borneol เป็นต้น และมีสารสีเหลืองส้ม คือ เคอร์ควิมิน (Curmumin) ประมาณร้อยละ 1.8-5.2
การศึกษาทางเภสัชวิทยาพบว่า ขมิ้นมีฤทธิ์ป้องกันการเกิดแผลในกระเพาะ มีฤทธิ์ลดการอักเสบ ขับน้ำดี และฤทธิ์คลายกล้ามเนื้อเรียบได้ โดยที่ฤทธิ์ป้องกันการเกิดแผลในกระเพาะเกิดจากสารเคอร์คิวมิน ขนาด 50 มิลลิกรัม/กิโลกรัม ทำให้เกิดการกระตุ้น การหลั่ง mucin ออกมาเคลือบกระเพาะ แต่ถ้าใช้ขนาดสูงอาจทำให้เกิดแผลในกระเพาะได้ ส่วนฤทธิ์ลดการอักเสบเกิดจากสารเคอร์คิวมินและน้ำมันหอมระเหย ทำให้ขมิ้นมีผลช่วยบรรเทาอาการปวดท้องเนื่องจากแผลในกระเพาะได้
ฉวีวรรณ พฤกษ์สุนันท์ และคณะ (2529) ศึกษาผลของยาแคปซูลขมิ้นในผู้ป่วยที่มีอาการปวดท้องเนื่องจากแผลเปื่อยในกระเพาะอาหาร และลำไส้เล็กดูโอนินั่ม โดยดูการเปลี่ยนแปลงของเยื่อบุผนังภายในกระเพาะอาหารและสำไส้เล็กดูโอนินั่ม ด้วยกล้องส่องตรวจ (Endoscope) ในผู้ป่วยชาย 8 ราย หญิง 2 ราย อายุระหว่าง 16-60 ปีผู้ป่วยที่มีแผลเปื่อย10 ราย นี้เป็น D.U. 2 ราย มีขนาดแผล 0.5-1.5 ซม. โดยให้รับประทานขมิ้นชันขนาดแคปซูลละ 250 มก.ครั้งละ 2 แคปซูล ก่อนอาหาร 3 มื้อ ครึ่งถึงหนึ่งชั่วโมง และก่อนนอน ปรากฏผลว่า แผลของผู้ป่วยหายเรียบร้อยดี 6 ราย คิดเป็น 60 % ในระยะเวลา 4-12 สัปดาห์ ในจำนวนนี้ถ้าแสดงผลการหายของแผลเรียบร้อยภายในเวลา 4 สัปดาห์ ได้เป็น 50%
อัญชลี อินทนนท์ และคณะ (2529) ได้ทำการทดลองใช้ขมิ้นรักษาผู้ป่วยที่มีอาการปวดท้องซึ่งเชื่อว่าเป็นอาการของโรคแผลเปปติค (Peptic Ulcer) โดยเปรียบเทียบกับการใช้ไตรซิลิเกต (Trisiligate) ซึ่งเป็นยาลดกรดขององค์การเภสัชกรรม ได้ผลดังนี้ คืออาการดีขึ้นมากหลังรักษาด้วยขมิ้นชัน ครบ 12 สัปดาห์ จำนวน 15 ราย คิดเป็น 60% หายปกติ 1 ราย คิดเป็น 58 % อาการดีขึ้นมาก หลังรักษาด้วยไตรซิลิเกต 5 ราย คิดเป็น 50 % หายปกติ 4 ราย คิดเป็น 40 %
ขมิ้นเป็นสมุนไพรที่มีความปลอดภัยสูง การศึกษาพบว่าขมิ้น ไม่มีพิษเฉียบพลันและไม่มีผลในด้านก่อกลายพันธุ์ และในการวิจัยทางคลินิกของ ฉวีวรรณ พฤกษ์สุนันท์และคณะ (2529) ได้ศึกษาเคมีเลือดผู้ป่วยที่รับการ ทดลองจำนวน 30 คน ก่อนและหลังรับประทานขมิ้นติดต่อกันนาน 4 สัปดาห์ ไม่พบว่ามีการเปลี่ยนแปลงในผลเคมีเลือดที่บ่งถึงการตรวจหน้าที่ตับและไต และฮีมาโตโลยี ส่วนผลแทรกแซง พบอาการท้องผูก ราย แพ้ยามีผื่นที่ผิวหนัง 2 ราย

วิธีใช้

ขมิ้นใช้รักษาโรคกระเพาะอาหารโดยการนำเหง้าแก่สดล้างให้สะอาด (ไม่ต้องปอกเปลือก) หั่นเป็นชิ้นบาง ๆ ตากแดดจัดสัก 1-2 วัน บดให้ละเอียด ผสมกับน้ำผึ้งปั้นเป็นลูกกลอน หรือบรรจุแคปซูล เก็บไว้ในขวดสะอาดและมิดชิด รับประทานครั้งละ 500 มิลลิกรัม วันละ4 ครั้ง หลังอาหารและก่อนนอน
บางคนรับประทานขมิ้นแล้วอาจมีอาการแพ้ขมิ้น เช่นคลื่นไส้ ท้องเสีย ปวดหัวนอนไม่หลับ เป็นต้น หากมีอาการดังกล่าวให้หยุดยาและเปลี่ยนไปใช้ยาชนิดอื่นแทน
ยาสมุนไพรที่ใช้รักษาโรคกระเพาะอาหาร





2.กล้วย
ชื่อวิทยาศาสตร์ Musa sapientum Linn. ชื่อท้องถิ่น - ลักษณะพืช กล้วยเป็นพืชเมืองร้อนและเป็นพืชที่คุ้นเคยกับคนไทยมาช้านาน เพราะเกือบทุกส่วนของกล้วยมีประโยชน์ต่อชีวิตประจำวัน กล้วยเป็นพืชล้มลุกที่มีลำต้นตรง รูปร่างกลม มีกาบใบหุ้มซ้อนกัน ใบสีเขียวขนาดใหญ่ ขอบใบขนานกัน ช่อดอกคือหัวปลี มีลักษณะห้อยหัวลงยาว 1-2 ศอก มีดอกย่อยออกเป็นแผง กลายเป็นผลติดกัน เรียกว่าหวี เรียงซ้อนและติดกันที่แกนกลางเรียกว่าเครือส่วนที่ใช้เป็นยา ผลกล้วยดิบหรือผลห่าม
ช่วงเวลาที่เก็บเป็นยา เก็บผลกล้วยช่วงเปลือกเป็นสีเขียว ต้นกล้วยจะให้ผลเมื่ออายุ 8-12 เดือน รสและสรรพคุณยาไทย รสฝาด ฤทธิ์ฝาดสมาน ข้อมูลทางวิทยาศาสตร์ กล้วยดิบประกอบด้วยสารประกอบหลายชนิด คือ Tannin , Serotonin, Norepinephnine, Dopamin และ Catecholamine สารเหล่านี้อยู่ในเนื้อและเปลือกของกล้วยสำหรับกล้วยสุกมี pectin , Essential oil, Norepinephrine และกรดอินทรีย์หลายชนิด
ปี คศ. 1964 Best และคณะ ได้พบว่าผงกล้วยดิบมีฤทธิ์รักษาแผลในกระเพาะหนูขาว ซึ่งเกิดจากการให้ aspirin โดยสามารถใช้ทั้งป้องกันและรักษาโรคแผลในกระเพาะอาหารได้ ในการป้องกันจะใช้ขนาด 5 กรัม ส่วนการรักษาใช้ขนาด 7กรัม และถ้าเป็นสารสกัดด้วยน้ำจะมีฤทธิ์แรงเป็น 800 เท่าของผงกล้วย ผู้วิจัยเข้าใจว่ากล้วยดิบไปกระตุ้นให้เซลล์ในเยื่อบุกระเพาะหลั่งสารพวก mucin ออกมาเคลือบกระเพาะ กล้วยจะดีกว่ายาพวก Aluminium hydroxide, Cimetidine หรือ Postaglandin ซึ่งมีฤทธิ์เฉพาะป้องกันการเกิดแผลในกระเพาะเท่านั้น แต่ไม่สามารถรักษาแผลที่เกิดแล้วได้

วิธีใช้

นำกล้วยน้ำว้าดิบฝานเป็นแว่นตากแดดประมาณ 2 วัน หรืออบให้แห้งในอุณหภูมิ 50 องศาเซลเซียส และบดเป็นผง วิธีรับประทานโดยการนำผงกล้วยดิบครั้งละครึ่งถึงหนึ่งผล ชงน้ำหรือผสมกับน้ำผึ้ง 1 ช้อนโต๊ะ ดื่มหรือนำผงกล้วยดิบมาปั้นลูกกลอน รับประทานครั้งละ 4 เม็ด วันละ 4 ครั้ง ก่อนอาหาร และก่อนนอน รับประทานแล้วอาจมีอาการท้องอืดเฟ้อ ป้องกันได้โดยใช้ร่วมกับยาขับลม เช่น น้ำขิง พริกไทย เป็นต้นสำนักงานคณะกรรมการการสาธารณสุขมูลฐาน, “ยาสมุนไพร สำหรับงานสาธารณสุขมูลฐาน”

Aug 26, 2009

อย่าใส่กล้วยหอมไว้ในตู้เย็นนะ





หลังจากอ่านบทความนี้จบ หลายคนจะมองกล้วยหอมในอีกแง่มุมหนึ่งทันที

กล้วยหอมมีสารน้ำตาลอยู่ 3 ชนิดคือ ซุคโคส ฟรุคโตสและกลูโคส (sucrose, fructose and glucose) รวมทั้งเส้นใยอาหาร มันจะให้พลังงานแก่ร่างกายพร้อมนำไปใช้ทันทีเลย

เขาวิจัยมาแล้วว่ากล้วยหอม 2 ใบให้พลังงานเพียงพอให้เราทำงานถึง 90 นาที

ยังไม่หมดนะ เจ้ากล้วยยังมีคุณอนันต์ ป้องกันโรคภัยและภาวะต่าง ๆของร่างกายได้อีกด้วย

ความเศร้าซึม

จากการสำรวจและวิจัยไต่ถามพร้อมสุ่มตัวอย่างจากคนไข้ ที่ป่วยเป็นโรคเศร้าซึมพบว่าส่วนใหญ่จะรู้สึกดีขึ้นเมื่อได้กินกล้วยหอม เพราะว่ามัน Tryptophan ซึ่งเป็นกรดอะมิโนโปรตีนชนิดหนึ่ง ซึ่งร่างกายสามารถแปลงเป็น Serotonin สารกระตุ้นที่ทำให้ร่างกายรู้สึกผ่อนคลาย อารมณ์สดใสและมีความสุขมากยิ่งขึ้น

PMS (premenstrual syndrome)

สำหรับสุภาพสตรีแล้วก่อนที่จะมีประจำเดือน อารมณ์จะหงุดหงิดง่าย ไม่อยู่กับร่องรอยและก่อให้เกิดสภาวะต่อร่างกาย เช่นปวดท้อง ปวดหัว ฯลฯ รีบกินกล้วยหอม แล้วยาแก้ปวดลืมกันไปได้เลย มันสามารถป้องกันได้นะ

โรคโลหิตจาง (Anemia)

ธาตุเหล็กในกล้วยหอมสามารถที่จะกระตุ้นร่างกายให้ผลิต Hemoglobin (ฮีโมโกลบิน) ในกระแสโลหิตช่วยหยุดยั้งภาวะโลหิตจางได้

ความดันโลหิต (Blood Pressure)

กล้วยหอมมีเกลือโปแตสเซียมเหลืองอยู่เยอะ เป็นตัวช่วยความดันเลือดจนกระทั่ง US Food and Drug Administration อนุมัติให้กล้วยหอม ยอดผลไม้มีส่วนช่วยลดภาวะความเสี่ยงความดันได้จริง

เสริมสร้างพลังสมอง (Brain Power)

ที่อังกฤษในแค้วน Middlesex มีนักเรียนจำนวน 200 คนจาก Twickenham school อ้างว่าพวกเขาสอบผ่านเพราะได้กินกล้วยหอมเป็นอาหารเช้า รวมทั้งกินอีกนิดหน่อยในตอนมื้อเที่ยงเพื่อทำให้สมอง สดชื่น เขาได้วิจัยพบว่าโปแตสเซียมในกล้วย ช่วยนักเรียนให้ตื่นตัวอยู่เสมอ

อาการท้องผูก (Constipation)

เส้นใยอาหารในกล้วยหอมช่วยทำให้ระบบขับถ่ายในร่างกาย ทำงานได้ดี

เมาค้าง (Hangovers)

วิธีแก้เมาค้างที่เร็วและดีอีกวิธีหนึ่งก็คือกินกล้วยหอมปั่น banana milkshake โดยการใส่น้ำผึ้งลงไปด้วย สรรพคุณของน้ำผึ้งและสารวิตามินในกล้วย จะช่วยให้ปรับระดับน้ำตาลในเส้นเลือด

และทำให้กระเพาะอาหารอยู่ในสภาวะที่พร้อมทำงานได้เร็วขึ้น

จุกเสียดแน่นท้อง (Heartburn)

กล้วยหอมมีสารลดกรดตามธรรมชาติอยู่ ดังนั้นการกินกล้วยก็จะช่วยให้ลดอาการดังกล่าว

Morning Sickness

ไม่รู้ว่าจะแปลว่าอะไรดี เป็นอาการที่เรารู้สึกในตอนเช้า เช่นไม่อยากจะตื่นบ้าง ฯลฯ ถ้าเรากินกล้วยหอมสักคำ 2 คำระหว่างมื้อเช้า เที่ยงหรือเย็น มันจะช่วยปรับระดับน้ำตาลในเลือดและแก้อาการดังกล่าว ในตอนเช้าได้

บรรเทาแผลยุงกัด

ก่อนที่จะใช้ยาทา ลองใช้เปลือกกล้วยหอมด้านในถูบริเวณที่ถูกยุงกัด จะช่วยลดอาการคันหรือบวมได้ คนส่วนใหญ่เป็นอย่าง นั้นจริง ๆ

ระบบประสาท (Nerves)

วิตามินบีที่มีอยู่มากในกล้วยหอมจะช่วยลดความเครียด และความอ่อนล้าได้

อ้วนจากทำงานมากเกินไป

ที่สถาบันจิตวิทยาในออสเตรียได้ศึกษาและพบว่า ความเครียดจากที่ทำงาน ทำให้คนกินช็อกโกแล็ตและของจุกจิกมากเกินไป ทำให้น้ำหนักเพิ่มมากขึ้น จากที่กล่าวมาแล้วถ้ากินกล้วยหอมสักเล็ก ๆน้อย ๆประมาณทุกๆ 2 ชั่วโมง มันจะช่วยปรับระดับน้ำตาลในเลือด และลดการอยากกินของจุกจิก

แผลในลำไส้และกระเพาะอาหารรวมทั้งผิวหนังพุพองเป็นแผล (Ulcers)

สารและเส้นใยในกล้วยหอมช่วยให้การย่อยอาหารของลำไส้เล็กดีขึ้น รวมทั้งกรดต่าง ๆที่มีอยู่ทำให้มีการเคลือบผิวของกระเพาะ ลดการเป็นแผลในกระเพาะได้

ปรับระดับอุณหภูมิในร่างกาย (Temperature Control)

ในประเทศแถบเส้นศูนย์สูตรที่มีอากาศร้อน ผู้คนชอบกินกล้วยหอมดับร้อนกัน และเชื่อว่ามันเป็นผลไม้เย็นฉ่ำชนิดหนึ่ง อย่างเช่นในไทยมีความเชื่อกันว่าผู้หญิงท้องควรกินกล้วยหอมเป็นประจำ

เพื่อเด็กที่เกิดมาจะมีอารมณ์เยือกเย็น

ลดความอยากสูบบุหรี่

สำหรับท่านที่ต้องการเลิกบุหรี่ กล้วยหอมอาจช่วยท่านได้เพราะมีวิตามิน B6, B12 โปแตสเซียม และแม็กนีเซียม ที่มีอยู่มากจะช่วยให้ร่างกายฟื้นตัวเร็วจากการขาดสารนิโคติน

เห็นไหมว่ากล้วยหอมนั้นเป็นยอดผลไม้จริง ๆ

เปรียบเทียบกับแอปเปิลแล้ว กล้วยหอมมีโปรตีนมากกว่า 4 เท่า มีคาร์โบไฮเดรทมากกว่า 2 เท่า ฟอสฟอรัสมากกว่า 3 เท่า วิตามินเอและธาตุเหล็กมากกว่า 5 เท่า วิตามินและเกลือแร่ต่าง ๆมากกว่า 2 เท่า

ดังนั้นจากที่ฝรั่งเคยพูดกันว่า “An apple a day keeps doctor away.”

ต่อไปคงจะต้องเปลี่ยนเป็น “A banana a day keeps doctor away.” ซะแล้ว

ขอบคุณ: Forwarded mail




แนะนำวิธีบรรเทาปวดหลังทำง่ายๆ ด้วยตัวคุณ!







ยกหนักยกเบาหายห่วง สร้างความแข็งแรง บริหารง่าย

ผู้ที่ทำงานในออฟฟิศ คงเคยมีอาการปวดหลังและคอ เนื่องมาจากการนั่งพิมพ์งานหน้าคอมพิวเตอร์เป็นเวลานาน หรืออาจเกิดมาจากโรคต่างๆ ที่ไม่เกี่ยวกับกระดูกสันหลัง ซึ่งบางครั้งอาจกินเวลานาน และสร้างความทรมานเป็นอย่างยิ่ง อาการปวดเหล่านั้นสามารถรักษาให้หายด้วยวิธีง่ายๆ ที่สามารถทำได้เองที่บ้าน

นพ.นันทเดช หิรัณยัญฐิติ ศัลยแพทย์ปวดหลังและข้อ โรงพยาบาลบำรุงราษฎร์ อินเตอร์เนชั่นแนล กล่าวว่า สาเหตุที่ทำให้ทุกคนมีอาการปวดหลังและคอนั้น เกิดจากหลังส่วนล่างเป็นบริเวณที่รับน้ำหนักของร่างกายมากที่สุด และเกิดอาการปวดบ่อยที่สุด อาการปวดหลังโดยทั่วไปมักเกี่ยวข้องกับกระดูกสันหลัง หมอนรองกระดูกสันหลังหรือกล้ามเนื้อที่คอยพยุงหลัง และจะปวดขึ้นมาเมื่อไรก็ได้ ในหลายๆ กรณี

ผู้ป่วยส่วนใหญ่อาจหายจากอาการปวดเล็กๆ น้อยๆ ได้ภายใน 2 สัปดาห์ด้วยการบำบัดเพียงเล็กน้อย แต่ในกรณีที่อาการปวดคงอยู่เป็นเวลาเกินกว่า 4 สัปดาห์ ควรไปพบแพทย์เพื่อรับการตรวจเพิ่มเติมเพราะอาจเป็นสัญญาณของโรคร้าย ส่วนมากแล้ว ประมาณร้อยละ 80 ของโรคปวดหลังจะมีสาเหตุมาจากอาการหลังตึง ส่วนสาเหตุอื่นๆ มีดังนี้ การบาดเจ็บจากอุบัติเหตุหรือหกล้ม, หมอนรองกระดูกเสื่อม อันเป็นผลมาจากกระดูกอ่อนที่หุ้มกระดูกสันหลังแต่ละปล้องเกิดการฉีกขาด และสาเหตุอื่นๆ ที่ไม่เกี่ยวกับกระดูกสันหลัง เช่น มะเร็ง นิ่วในไต หรือภาวะติดเชื้อต่างๆ

สำหรับการรักษาโรคปวดหลังและคอนั้น ส่วนใหญ่อาจรักษาให้หายได้โดยไม่ต้องใช้วิธีที่ซับซ้อนนัก เพียงพักผ่อนประมาณ 2-3 วัน รับประทานยาแก้อักเสบร่วมกับการประคบเย็นเพื่อลดอาการบวม และลดการหดเกร็งของกล้ามเนื้อก็จะดีขึ้นได้ภายใน 2สัปดาห์ สำหรับอาการปวดหลังเรื้อรัง แพทย์จำเป็นต้องใช้วิธีการรักษาที่ครอบคลุมหลายด้านมากขึ้น โดยอาจรวมการทำกายภาพบำบัดเป็นต้น

สำหรับคนที่ยังไม่มีอาการปวดหลังและคอ ก็ควรสร้างความแข็งแรงให้กับหลังเป็นดีที่สุดด้วยท่าบริหารง่ายๆ ต่อไปนี้คุณสามารถทำที่บ้าน โดยไม่ต้องอาศัยอุปกรณ์พิเศษใดๆ เริ่มที่

* การยกของหนักหรือเบา ควรปฏิบัติดังต่อไปนี้

- ย่อเข่าเพื่อทำการยกโดยพยายามให้หลังตรงเสมอ ไม่ควรโน้นตัวลง

- เกร็งกล้ามเนื้อหน้าท้อง แล้วยกโดยใช้กล้ามเนื้อขา

- ยืดเข่าขึ้น ยืนให้มั่นคง

- พยายามอย่ายกของหนักซึ่งตั้งอยู่สูงกว่าระดับเอว

- ยกของโดยให้ของอยู่ชิดตัวเพื่อกระจายน้ำหนัก

- เมื่อจะวางของย่อเข่าลง ใช้กล้ามเนื้อขาอย่าให้หลังงอ

* คงปฏิเสธไม่ได้ว่าการนอนนั้นมีผลทำให้หลังของเราปวดได้ ดังนั้นท่านอนที่ดีต้องเริ่มจาก

- ไม่ควรวางหมอนไว้ใต้ไหล่ วางหมอนไว้ใต้ศีรษะอย่าให้หมอนหนาเกินไป

- พยายามนอนในท่าที่หลังโค้งได้อย่างเป็นธรรมชาติ

- อย่านอนคุดคู้

- ไม่ควรนอนคว่ำ เพราะจะทำให้คุณเมื่อยคอและหลัง

- เลือกที่นอนที่ดีต่อสุขภาพหลัง อย่าให้นุ่มจนเกินไป

ที่มา: หนังสือพิมพ์ผู้จัดการรายวัน


สาเหตุของปัญหาเครื่องคอมพิวเตอร์แฮงค์





วันนี้เราจะมาพูดถึงปัญหาคอมพิวเตอร์กัน เพราะว่าหลังจากที่เราใช้เครื่องไปสักระยะหนึ่ง ถ้าเครื่องของเราเกิดปัญหาขึ้น เช่น แฮงค์ไปเฉยๆ ไม่สามารถทำงานต่อได้ ต้องรีสตาร์ทเครื่องใหม่บ่อยๆ เราคงอยากทราบว่าสาเหตุและวิธีการแก้ปัญหาที่ทำให้คอมพิวเตอร์แฮงค์ ในหน้านี้เราจะรวบรวมปัญหาต่างๆ ที่อาจเกิดขึ้นและส่งผลให้คอมพิวเตอร์ของท่านเกิดอาการแฮงค์ขึ้นมาพร้อมวิธีการแก้ปัญหาเหล่านั้น่้

สำหรับปัญหาว่าทำไมเครื่องคอมพิวเตอร์ของเราเกิดอาการแฮงค์ขึ้นมาเฉยๆนี้เป็นปัญหายอดนิยม และพบกันมากที่สุดในกลุ่มผู้ใช้คอมพิวเตอร์ และเป็นปัญหาที่ไม่ค่อยมีคนรู้สาเหตุมากที่สุด เราสามารถแบ่งแยกประเภทของสาเหตุที่ทำให้คอมพิวเตอร์เกิดอาการแฮงค์ได้ 2 ประการคือ

1. ฮาร์ดแวร์ หรือ 2. ซอฟท์แวร์และระบบปฏิบัติการ (OS) เราจะมาดูสาเหตุที่ทำให้เครื่องคอมพิวเตอร์ของเราแฮงค์ พร้อมทั้งวิธีแก้ไขปัญหาทีละประการ

สาเหตุจากฮาร์ดแวร์ เราสามารถแยกปัญหาที่เกิดขึ้นจากฮาร์ดแวร์ได้ 4 ประเภทได้แก่
ความไม่เข้ากันของอุปกรณ์แต่ละตัว ปัญหานี้มักจะเกิดกับผู้ซื้อคอมพิวเตอร์ประเภทแยกชิ้นส่วนประกอบ ซึ่งอาการแฮงค์เหล่านี้จะเริ่มขึ้นตั้งแต่เราใช้เครื่องครั้งแรกๆเลย อาจจะเปิดเครื่องมาเฉยๆ แล้วก็แฮงค์ใช้งานนิดๆหน่อยๆ แล้วก็แฮงค์ ถ้าอาการหนักหน่อยอาจจะถึงขั้นไม่สามารถใช้เครื่องได้เลย ต้นตอของปัญหานี้เกิดจากการที่เราขาดการศึกษาเรื่องฮาร์ดแวร์ที่นำมาประกอบเป็นเครื่องของเรา อีกทั้งอาจเป็นไปได้ที่ผู้ขายนำอุปกรณ์คุณภาพต่ำมาประกอบเป็นคอมพิวเตอร์ที่มีราคาถูกมาขายให้เราก็ได้

วิธีแก้ไขปัญหา ก็ควรจะเลือกใช้คอมพิวเตอร์แบรนด์เนมจะดีกว่า แต่ถ้าเกิดเราขัดสนปัญหาทางการเงิน เราก็ควรจะศึกษาจากการอ่านหนังสือ หรือถามจากบุคคลที่รู้จักที่เคยผ่านการใช้คอมพิวเตอร์มาแล้ว การศึกษาก่อนการตัดสินใจซื้อ จะเป็นประโยชน์ต่อตัวคุณและเงินในกระเป๋าของคุณก็จะถูกใช้อย่างคุ้มค่าด้วย

ไดรเวอร์ล้าสมัย ไดร์เวอร์ คือ ซอร์ฟแวร์อย่างหนึ่งที่มีหน้าที่ในการสั่งการหรือเชื่อมโยงการทำงานระหว่างโปรแกรมประยุกต์ หรือระบบปฏิบัติการกับอุปกรณ์ต่างๆภายในเครื่อง เนื่องจากอุปกรณ์คอมพิวเตอร์มีการพัฒนาอย่างรวดเร็ว มีผลิตภัณฑ์ใหม่ๆออกมามากมายแต่ไดร์เวอร์ที่ออกมาก่อนหน้าที่จะมีอุปกรณ์ตัวใหม่ออกมาก็อาจจะทำงานร่วมกันได้ไม่ดีและเกิดอาการแฮงค์ได้ ซึ่งอาการหลักๆที่เกิดขึ้นกับไดร์เวอร์ คือ ถ้าเรามีการใช้งานอุปกรณ์ฮาร์ดแวร์ ที่ไม่ได้มีการอัพเดทไดร์เวอร์ใหม่ๆ อย่างสม่ำเสมอ จะเกิดหน้าจอสีฟ้าขึ้น ซึ่งถ้าเราไม่เข้าใจอาการหรือสาเหตุนี้ เราอาจคิดไปว่าเครื่องเสียจนต้อง Format เครื่องเลยก็มี

วิธีแก้ไขปัญหานี้ง่ายๆ ก็คือ ให้เราไปอัพเดทไดร์เวอร์อุปกรณ์ฮาร์ดแวร์ที่เว็บไซต์ของผู้ผลิตฮาร์ดแวร์ หรืออุปกรณ์ที่อยู่ภายในเครื่องของเรา

ฝุ่นคือตัวนำไฟฟ้า สาเหตุอีกประการหนึ่งที่ทำให้เครื่องของเราแฮงค์ และอาจจะดูเป็นสาเหตุที่ทำให้คนคาดไม่ถึงได้ นั่นก็คือฝุ่นนั่นเอง เราอาจจะสงสัยว่า ทำไมฝุ่นจึงทำให้เกิดอาการแฮงค์ได้ ในความเป็นจริงแล้วฝุ่นดูจะเป็นสาเหตุหลักที่ทำให้คอมพิวเตอร์แฮงก์ เพราะฝุ่นเป็นตัวนำไฟฟ้าได้จะรุนแรงขนาดไหน ต้องขึ้นอยู่กับชนิดของฝุ่น และอีกสาเหตุที่ทำให้เครื่องแฮงก์ก็คือ บริเวณที่ฝุ่นเกาะ เช่น ถ้าเป็นบริเวณเมนบอร์ดวงจรจะไม่มีผล เพราะมีสารเคลือบกันเอาไว้ แต่บริเวณขาไอซีอุปกรณ์อิเล็คทรอนิคส์ต่างๆ ในเครื่อง ถ้ามีฝุ่นที่จะสามารถนำไฟฟ้าไปเกาะระหว่างขาสัญญาณ ก็เป็นสาเหตุที่ทำให้เครื่องทำงานผิดพลาดหรือแฮงค์ได้

วิธีแก้ปัญหา คือ เราก็แค่ทำความสะอาดเครื่องคอมพิวเตอร์ของเราอยู่เสมอ หรืออย่างน้อย 1 ครั้ง/สัปดาห์ เมื่อใช้เครื่องคอมพิวเตอร์เสร็จ ก็ควรหาผ้าคลุมเครื่องกันฝุ่น สำหรับอุปกรณ์ภายในควรปรึกษาผู้ชำนาญในการทำความสะอาดส่วนนี้

สาเหตุจากซอร์ฟแวร์และระบบปฏิบัติการ
สาเหตุของคอมพิวเตอร์แฮงค์ที่ดูเหมือนจะเป็นปัญหาใหญ่นั่นคือ ซอร์ฟแวร์และระบบปฏิบัติการ ซึ่งต้นตอของสาเหตุที่ซอร์ฟแวร์ทำให้เครื่องคอมพิวเตอร์แฮงค์ นั่นคือการทำงานผิดพลาดของโปรแกรม และยิ่งเครื่องคอมพิวเตอร์ที่สนับสนุนการทำงานแบบใช้โปรแกรมหลายๆ โปรแกรมพร้อมกันได้ในเวลาเดียวกัน(Multitasking) จะยิ่งเพิ่มโอกาสให้โปรแกรมภายในเครื่องของเราทำงานขัดแย้งกันสูงขึ้น เราจะมาดูสาเหตุหลักๆ ที่ซอร์ฟแวร์เป็นต้นตอของอาการแฮงค์ในคอมพิวเตอร์ของเรา

สาเหตุจากระบบปฏิบัติการ (Operating System)
ระบบปฏิบัติการ ถ้าเปรียบไปแล้วก็เหมือนกับแม่บ้าน ที่คอยดูแลรักษาบ้านของเราให้อยู่อย่างปกติสุข ซึ่งระบบปฏิบัติการจะทำการควบคุมโปรแกรมหรือฮาร์ดแวร์ ให้ทำงานตามคำสั่งเราอีกทีหนึ่ง อาการที่เราเรียกว่าแฮงค์ที่เกิดจากระบบปฏิบัติการ มักมีสาเหตุมาจากการควบคุมฮาร์ดแวร์ที่ผิดพลาด เช่น การควบคุมหน่วยความจำ เพราะโปรแกรมที่ทำงานระบบปฏิบัติการ Windows ในขณะใดขณะหนึ่งไม่ได้มีแค่โปรแกรมเดียว ดังนั้นระบบปฏิบัติการจึงต้องคอยบริการและควบคุมการใช้งานฮาร์ดแวร์ เพื่อป้องกันการตีกันเองระหว่างโปรแกรมที่ทำงานในขณะนั้น ซึ่งความสัมพันธ์ระหว่างโปรแกรมที่ทำงานอยู่ภายในแต่ละเครื่อง ก็แตกต่างกันตามผู้ใช้แต่ละคน ดังนั้นจึงเป็นเรื่องยากที่จะออกแบบระบบปฏิบัติการ ให้ปราศจากข้อผิดพลาดในการควบคุมการทำงานระหว่างโปรแกรม แนวทางการแก้ปัญหาคอมพิวเตอร์แฮงค์นั้นคือ การหลีกเลี่ยงการทำงานที่เคยพบว่าทำให้แฮงค์ หรือไม่เช่นนั้นก็ต้องลงระบบใหม่ ซึ่งอาการอาจจะดีขึ้น หากอาการแฮงค์นั้นเกิดเพราะไฟล์บางไฟล์ของระบบปฏิบัติการถูกแก้ไขไปด้วยโปรแกรมอื่น ซึ่งปัญหาลักษณะนี้จะเกิด และมีวิธีแก้ไขเหมือนกันทุกเครื่องที่มีองค์ประกอบในลักษณะเดียวกัน

สาเหตุจากไดรเวอร์
ไดร์เวอร์ คือโปรแกรมที่ทำหน้าที่เชื่อมต่อการสั่งงานจากระบบปฏิบัติการ ไปยังฮาร์ดแวร์ของแต่ละผู้ผลิต โดยปกติแล้วไดรเวอร์จะมีโอกาสที่ทำให้เกิดอาการแฮงค์ไม่มากนัก อาการที่เคยพบเห็นก็คือเครื่องจะหยุดนิ่งไปเฉยๆเป็นเวลานาน และเกิดข้อผิดพลาดที่มีการบอกรายละเอียดข้อผิดพลาดขึ้น หรือไม่ก็อุปกรณ์ทำงานเพี้ยนไปจากที่ควรจะเป็น

วิธีแก้ไขปัญหา ขอแนะนำให้อัพเกรดไดรเวอร์ของอุปกรณ์บ้างก็ดี ซึ่งอย่างน้อยมันก็จะช่วยลดความเสี่ยงในการทำให้เครื่องคอมเราแฮงค์ และยังเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานของฮาร์ดแวร์อีกด้วย

โปรแกรมแอพพลิเคชั่นที่ทำให้เครื่องแฮงค์
อาการแฮงค์ที่เกิดจากโปรแกรมประยุกต์ เป็นอาการที่พบได้บ่อยพอสมควร แต่สาเหตุจริงๆ เกือบทั้งหมดไม่ได้มาจากตัวโปรแกรมประยุกต์โดยตรง แต่มักเกิดจาการทำงานการทำงานของไฟล์บางตัว ที่เข้าไปเปลี่ยนแปลงบางจุดของระบบปฏิบัติการ ทำให้ระบบรวนได้ อาการแฮงค์ในลักษณะนี้มักจะอยู่ในรูปของการที่เครื่องหยุดทำงานไปเฉยๆ โดยไม่ได้แสดงอะไรออกมาทั้งสิ้น(แม้แต่หน้าจอสีฟ้า) ซึ่งอาการเหล่านี้อาจจะเกิดกับเครื่องเพียงบางเครื่องเท่านั้น โดยที่เครื่องบางเครื่องใช้โปรแกรมเดียวกันอาจจะไม่เกิดอาการแฮงค์ โปรแกรมประยุกต์ที่ทำให้เครื่องแฮงค์มักจะเป็นโปรแกรมที่ซับซ้อนหรือมีการทำงานที่หลากหลายมากๆ

วิธีการแก้ไขปัญหา ควรหลีกเลี่ยงการใช้งานโปรแกรมพวกนี้ เพราะฟังก์ชันการทำงานที่ซับซ้อนอาจจะเกินความจำเป็นและยังทำให้เครื่องรวนอีกด้วย

สำหรับอีกปัญหาหนึ่งที่เคยพบเห็นมากก็คือ General Protection Fault ซึ่งจะขึ้นมาเป็นกรอบโต้ตอบให้กด Close ได้อย่างเดียว บางคนอาจจะว่าร้ายแรงน้อยกว่า Blue Screen ก็ได้ เพราะไม่ตัดหน้าจอสวยๆ แล้วเปลี่ยนไปเป็นจอสีฟ้าแข็งทื่อ ซึ่งผลกระทบของอาการแฮงค์นี้ ก็จะทำให้เราไม่สามรถทำงานต่อไปได้และยังทำให้เราไม่สามรถเซฟงานที่เราทำไว้ได้อีกด้วย

ลักษณะปัญหาอีกอย่างหนึ่งก็คือ การเกิดจากโปรแกรมประยุกต์ ก็คือเครื่องเราเกิดอาการแฮงค์หลังจากที่ลงโปรแกรมใดๆลงไปนั่นเองทั้งๆที่ก่อนหน้านั้นในจุดนี้ไม่เคยเกิดอาการแฮงค์ มักจะเกิดขึ้นเมื่อเราลงโปรแกรมเวอร์ชั่นใหม่ทับเวอร์ชั่นเก่า เพราะฉะนั้นเราควรจะถอนเวอร์ชั่นเก่าก่อนลงเวอร์ชั่นใหม่

คอมพิวเตอร์ติดไวรัส
อาการแฮงค์ที่เกิดจาการที่เครื่องเราติดไวรัส เป็นอาการที่ตรวจสอบได้ยากที่สุด เพราะไวรัสคอมพิวเตอร์นั้นเป็นโปรแกรมตัวหนึ่งที่สามทารถเข้ามาในเครื่องของเราได้หลายทาง ถ้าเราไม่เคยตรวจสอบไวรัสภายในเครื่องของเราเลย จนไม่สามารถทำงานได้อีกต่อไปเลยก็มี อาการเครื่องแฮงค์ที่เกิดจากไวรัส มักจะเกิดกับจุดที่ไม่เคยแฮงค์ ทั้งๆ ที่ไม่ได้เปลี่ยนแปลงอะไรเลย อีกทั้งก่อนหน้าที่จะแฮงค์นั้น มักจะแสดงอาการแปลกๆให้เรารับรู้ก่อน เช่น ทำงานช้าลงจนเรารู้สึกได้ หรือมีอาการกระตุกบ่อยๆ ในบางครั้งอาจจะมีไฟล์บางไฟล์โผล่เข้ามาโดยเราไม่สามารถหาต้นตอได้ บางคนอาจจะไม่ยอมรับว่า เครื่องติดไวรัส เพราะต่างเชื่อมั่นในโปรแกรมป้องกันไวรัสของตน

วิธีการแก้ไขปัญหา เราจึงไม่ควรเปิดโปรแกรมหรือเอกสารที่เราไม่รู้จักหรือไม่มั่นใจ นอกจากนี้ควรตรวจสอบไวรัสในเครื่องของเราบ้างและอัพเกรดโปรแกรมป้องกันไวรัสบ้างก็ดีนะ

ที่มา : ซุปเปอร์มิกซ์




วิธีสังเกตยาเสื่อมคุณภาพ







แนะดูสี-กลิ่น-วันหมดอายุก่อนทาน

ทราบหรือไม่ว่า ยาแต่ละชนิดจะเสื่อมคุณภาพเมื่อไหร่ วันนี้มีวิธีสังเกตมาฝาก…

- ยาเม็ด สังเกตว่าเม็ดยาจะแตกร่วน สีเปลี่ยนไป มีจุดด่าง ขึ้นรา หรือหากเป็นยาเม็ดเคลือบน้ำตาล เม็ดยาอาจเยิ้มเหนียวมีกลิ่นหืนหรือกลิ่นผิดไปจากเดิม

- ยาแคปซูล สังเกตว่าแคปซูลจะบวม พองออก หรือจับกัน ผงยาในแคปซูลเปลี่ยนสี เช่น ยาเตตราซัยคลินที่เสียแล้ว ผงยาจะเปลี่ยนจากสีเหลืองเป็นสีน้ำตาล ซึ่งเป็นอันตรายต่อไตมาก

- ยาน้ำแขวนตะกอน เช่น ยาลดกรด ยาคาลาไมน์ทาแก้คัน หากเสื่อมสภาพตะกอนจะจับกันเป็นก้อน เกาะติดกันแน่น เขย่าแล้วไม่กระจายตัวดังเดิม มีความเข้มข้น กลิ่น สี หรือรสเปลี่ยนไป

- ยาน้ำเชื่อม เช่น ยาแก้ไอ หากหมดอายุ ยาจะมีลักษณะขุ่นมีตะกอน ผงตัวยาละลายไม่หมด สีเปลี่ยน มีกลิ่นบูดเปรี้ยวหรือรสเปรี้ยว

- ยาขี้ผึ้งและครีม ถ้าพบว่าเนื้อยาแข็งหรืออ่อนกว่าเดิม เนื้อไม่เรียบ เนื้อยาแห้งแข็ง หรือสีของยาเปลี่ยนไป

วิธีการดูว่ายาหมดอายุ คือ ดูวันหมดอายุของยาที่ระบุไว้บนฉลากยา และถ้ายานั้นไม่มีวันบอกหมดอายุ อาจดูจากวันเดือนปีที่ผลิต ซึ่งโดยปกติ ถ้าเป็นยาน้ำจะเก็บไว้ได้ประมาณ 3 ปีนับจากวันผลิต และหากเป็นยาเม็ดจะเก็บไว้ได้ 5 ปี และถ้าเป็นยาหยอดตาหากเปิดใช้แล้วเก็บไว้ได้เพียงหนึ่งเดือน

ครั้งหน้าถ้าจะรับประทานยา อย่าลืมสังเกตดูวันหมดอายุก่อนรับประทานยากันด้วย

ที่มา: หนังสือพิมพ์เดลินิวส์


ปากแห้ง เพราะอะไร??





ปากแห้งในที่นี้ หมายถึง ริมฝีปาก และภายในบริเวณ ช่องปากทั้งหมด แห้งหรือไม่มี น้ำลายอาจจะ เกิดขึ้นเพียง ชั่วครั้งชั่วคราว อาจเป็นอยู่นาน หรือตลอดไปก็ได้

ผู้ที่อยู่ในสภาวะปากแห้งจะพบว่าฟันผุได้ง่าย โดยเฉพาะบริเวณคอฟันเพราะไม่มีน้ำหรือน้ำลาย มาชะล้างคราบอาหารออกจากผิวฟัน นอกจากนี้ยังไม่มีน้ำ ที่จะมาลดความเจือจางของกรดที่เกิดขึ้นใช่องปากทั้งจากอาหารที่รับประทาน และกรดที่เกิดจากการย่อยแป้งและน้ำตาลของเชื้อแบคทีเรีย ในช่องปากจึงมีภาวะความเป็นกรดสูง ซึ่งเมื่อเกิดอยู่เป็นเวลานาน จะทำให้ฟันผุได้


นอกจากนั้นภาวะปากแห้งยังทำให้เกิดเหงือกอักเสบได้ เนื่องจากขณะไม่มีน้ำลาย ทำให้สภาพในช่องปากเปลี่ยนไป เซลล์ที่อยู่บริเวณผิวของเนื้อเยื่อเหงือกจะตาย ทำให้เกิดการอักเสบได้

ภาวะปากแห้ง นอกจากทำให้ฟันผุและเหงือกอักเสบแล้ว ยังทำให้มีกลิ่นปากอีกด้วย เพราะไม่มีน้ำลายมาชะล้างคราบอาหาร และของเสียที่เชื้อแบคทีเรียย่อยแล้ว จึงเกิดการหมักหมมทำให้บูดเน่า จึงมีกลิ่นปากได้ ภาวะปากแห้งนี้ถ้าเป็นมาก ผู้ป่วยอาจมีอาการปวดแสบปวดร้อนเยื่อบุในช่องปากได้ นอกจากนี้ทำให้เกิดแผลในช่องปากได้ง่าย จากการเสียดสีเพราะไม่มีน้ำลายเป็นตัวหล่อลื่น

สาเหตุ ที่ทำให้เกิดปากแห้งมีหลายสาเหตุที่พบได้บ่อยๆ เช่น การขาดน้ำ ผู้ที่ดื่มน้ำน้อยหรืออยู่ในสภาวะบางอย่างที่ดื่มน้ำไม่ได้ เช่น ผู้ที่พูดอยู่เป็นเวลานาน ผู้ที่ท้องเสียมาก ร่างกายขาดน้ำ ผู้ที่ออกกำลังกายเสียเหงื่อออกมาก หรือมีไข้ปากจะแห้งได้ ดังนั้นผู้ที่รู้ตัวว่า ปากแห้งบ่อยๆ ควรแก้ไขด้วยการจิบน้ำบ่อยๆ ก็จะหายจากสภาวะปากแห้งได้

การรับประทานยาบางชนิด เช่น ยาแก้ไข้หวัด ยาลดน้ำมูก จะลดการไหลของน้ำลายลงไปด้วย จะทำให้ปากและคอแห้งในช่วงที่รับประทานยาอยู่ และอาการปากแห้งจะหายไปเมื่อหยุดยา ยาจำพวกที่ไปกดประสาทต่างๆ ก็จะไปลดการไหลของน้ำลายได้เช่นกัน ดังนั้นท่านที่รับประทานยาเหล่านั้นอยู่เป็นประจำ ก็ทำให้ปากแห้งได้ ช่วงที่ต้องรับประทานยาอยู่จะต้องจิบน้ำบ่อยๆ อาจเป็นน้ำเย็นหรือน้ำที่ไม่ร้อนมาก เพราะน้ำร้อนจะไปทำให้อาการปวดแสบปวดร้อนที่เกิดจากปากแห้ง เป็นมากขึ้น และควรเป็นน้ำสะอาดไม่ควรเป็นน้ำผลไม้ น้ำอัดลม หรือน้ำหวาน เพราะน้ำเหล่านี้มีกรด และน้ำตาลผสมอยู่ ถ้าจิบบ่อยๆ นอกจากจะทำให้ฟันผุได้ง่ายแล้ว ยังจะทำให้ร่างกายได้รับน้ำตาล มากเกินความจำเป็นได้ นอกจากนี้การดื่มน้ำอัดลมบ่อยๆ จะทำให้ท้องอืดได้

ผู้ที่หายใจทางปาก ซึ่งอาจเกิดจากโรคหรือสภาวะบางอย่าง เช่น ขณะเป็นหวัดมีการบวมของเยื่อบุโพรงจมูก หายใจไม่ออกต้องหายใจทางปาก ก็ทำให้ปากแห้งได้หรือผู้ที่เป็นโรคโพรงจมูกอักเสบ มีเนื้องอกในโพรงจมูก หายใจไม่สะดวก ต้องหายใจทางปากแทน ผู้ที่นอนอ้าปากหรือนอนหายใจทางปาก ทำให้ปากและคอแห้งได้ สังเกตได้จากตื่นเช้ามา มักจะเจ็บคอ หรือคอแห้ง ถ้าตรวจดูในช่องปากจะพบว่า เหงือกบริเวณฟันหน้าบนจะอักเสบ ดังนั้นผู้ที่หายใจทางจมูกไม่สะดวก ควรให้แพทย์ตรวจดูเพื่อหาสาเหตุและแก้ไขเสีย

ผู้ที่ได้รับการฉายรังสี เพื่อรักษาโรคมะเร็ง โดยเฉพาะบริเวณใบหน้า และลำคอหลังจากฉายแสงแล้วมีอาการปากแห้งได้ เพราะต่อมน้ำลายและต่อมที่ผลิตน้ำเมือกถูกทำลาย น้ำลายจึงน้อยลงซึ่งทำให้เกิดสภาวะปากแห้งอยู่ตลอดเวลาจึงควรจิบน้ำบ่อยๆ เพื่อไม่ให้ปากและคอแห้ง ผู้ป่วยกลุ่มนี้ควรได้รับการตรวจสุขภาพช่องปาก 6 เดือน เนื่องจากฟันจะผุ และเหงือกอักเสบง่าย ดังได้กล่าวมาแล้วจึงควรป้องกันฟันผุ ด้วยการอมน้ำยาบ้วนปากฟูลออไรด์ที่ไม่มีส่วนผสมของแอลกอฮอล์ เพราะแอลกอฮอล์จะทำให้สภาวะปากแห้งมากขึ้น และควรให้ทันตแพทย์ทำความสะอาดฟัน และเคลือบฟลูออไรด์ทุก 6 เดือนด้วย

อีกสาเหตุหนึ่งที่เป็นตัวการทำให้เกิดโรคได้มากมาย รวมทั้งภาวะปากแห้งด้วยคือ ความเครียด เชื่อว่า การที่ต่อมน้ำลาย และน้ำเมือกลดลง เกิดมาจากความเครียดด้วย จึงทำให้ปากคอแห้ง

สรุปได้ว่า ภาวะปากแห้งนั้นเกิดได้หลายสาเหตุ เริ่มจากการขาดน้ำ การสูญเสียน้ำออกจากร่างกายมากไป การหายใจทางปาก การไหลของน้ำลายน้อย ซึ่งเกิดจากการรับประทานยากดประสาท จากการได้รับรังสี จากความเครียด ซึ่งควรตรวจหาสาเหตุและแก้ไขเสีย เพราะสภาวะปากแห้งถ้าเป็นอยู่นานๆ จะทำให้ฟันผุเหงือกอักเสบ และมีกลิ่นปากได้ ถ้าท่านตรวจหาสาเหตุ ที่ทำให้ปากแห้งด้วยตัวเองไม่พบ เชิญปรึกษาทันตแพทย์

ที่มา : ทญ.สุมนา สวัสดิ์-ชูโต




"เสาวรส"...ผลไม้มากคุณค่า





เสาวรส เป็นผลไม้เขตร้อน ให้คุณประโยชน์ทางโภชนาการสูง มีวิตามินเอช่วยบำรุงสายตาปรับสมดุลในร่างกาย ให้สดชื่นนอกจากนี้ยังช่วยสมานผิว ลดรอยเหี่ยวย่นบนใบหน้าสามารถนำไปเป็นส่วนผสมในเครื่องสำอางได้ดีอีกด้วย

ด้วยเหตุนี้ ช่อลัดดา เที่ยงพุก นักวิจัยฝ่ายกระบวนการผลิตและแปรรูป สถาบันค้นคว้าและพัฒนาผลิตภัณฑ์อาหาร มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ แนะนำว่า เสาวรส หรือ กระทกรก กระทกรกฝรั่ง มีชื่อทางวิทยาศาสตร์ ว่า Passifora spp. พบครั้งแรกที่ประเทศเม็กซิโก และนำเข้ามาปลูกในประเทศไทยเมื่อปี พ.ศ.2498 มี 3 สายพันธุ์ คือ พันธุ์สีม่วง เมื่อผลสุกผิวมีสีม่วงเข้ม มีรสชาติหวาน กลิ่นหอม นิยมรับประทานสด , พันธุ์สีเหลือง เมื่อผลสุกผิวมีสีเหลืองเป็นมัน เปลือกหนา มีรสเปรี้ยว เหมาะสำหรับการแปรรูปเป็นเครื่องดื่มผสมน้ำผลไม้ชนิดต่างๆและ "พันธุ์ลูกผสมสีหลืองและสีม่วง"


ช่อลัดดา นักวิจัย มก. กล่าวถึงคุณประโยชน์ที่ได้จากเสาวรส มีคุณค่าทั้งวิตามินเอ และวินตามินซี "คุณประโยชน์ของเสาวรสที่นำมาทำเป็นน้ำเสาวรสมีทั้งวิตามินเอ บำรุงสายตาช่วยรักษาสภาพเยื่อบุผิว มีวิตามินซี ช่วยสร้างภูมิคุ้มกันโรค นำไปปรุงแต่งกินประกอบอาหาร ขนมต่างๆ อีกทั้งยังช่วยบำรุงผิวพรรณ ใช้ทาหน้าก่อนนอน ลดรอยเหี่ยวย่น และช่วยเพิ่มความสมดุลให้กับร่างกาย ลดอาการวิงเวียนคลื่นไส้ บรรเทาอาการจากโรคกระเพาะปัสสาวะอักเสบ ฟื้นฟูตับและไตที่อ่อนแอ กำจัดสารพิษในเลือด ลดไขมันในเลือด

ลักษณะของเสาวรสจะมี
ยอดอ่อน ที่สามารถรับประทานได้ มีรสชาติขมเล็กน้อย
เนื้อหุ้มเมล็ด ในผล รับประทานสดได้ มีกากใยอาหาร
ใบสด ใช้พอกแก้หิด
ดอก ใช้ขับเสมหะ แก้ไอ
ต้นสด ห้ามนำมารับประทานเพราะอาจถึงตายได้
เปลือก เป็นอาหารสัตว์ และนำมาทำปุ๋ยหมักได้ ส่วน
เมล็ด มีสารยับยั้งการเจริญเติบโตของเชื้อรา และโรคกระเพาะปัสสาวะอักเสบ

นอกจากนี้ในประเทศอิตาลีได้ผลิตน้ำมันจากเมล็ดของเสาวรส และนำไปใช้เป็นส่วนประกอบในผลิตภัณฑ์กันแดด ช่วยในเรื่องของผิวพรรณ ลดการอักเสบของสิว ช่วยลดจุดด่างดำ เนื่องจากมีวิตามินซีสูงและวิตามินเอช่วยสมานผิวรักษาเยื่อบุผิวหนัง ซึ่งในทางอโรมาจัดว่า น้ำเสาวรสเป็นน้ำมันที่ให้ความผ่อนคลายในการนวดได้ดี และนิยมใช้นวดบรรเทาอาการปวดเมื่อยกล้ามเนื้อได้ดีอีกด้วย


Aug 21, 2009

พืชตระกูลถั่ว



(เช่นถั่วแดง ถั่วเขียว ถั่วเหลือง และถั่วขาว) จากการศึกษาพบว่าผู้ที่กินถั่วเป็นประจำมีระดับคอเลสเตอรอลน้อยกว่าผู้ที่ ไม่ได้กิน และลดอัตราความเสียงต่อการเกิดโรคหัวใจด้วย พืชตระกูลถั่วนี้ประกอบด้วยไฟเบอร์สูง ซึ่งช่วยลดระดับคอเลสเตอรอล ทำความสะอาดลำไส้ ลดการสะสมของสารพิษในลำไส้ และช่วยควบคุมระดับน้ำตาลในเลือดให้คงที่ อีกทั้งช่วยป้องกันการเกิดมะเร็งลำไส้และมะเร็งต่อมลูกหมากด้วย






มะนาว




เป็นสุดยอดอาหารที่ช่วยทำความสะอาดตับ มีวิตามินซีสูง น้ำมะนาวสดเมื่อนำมาผสมกับน้ำอุ่นแล้วดื่มตอนเช้าหลังตื่นนอนจะช่วยล้างพิษ และทำให้เลือดสะอาดขึ้น แต่ถ้านำน้ำมะนาวสดผสมกับโยเกิร์ตและน้ำผึ้ง ก็จะเป็นอาหารที่ช่วยล้างพิษในลำไส้และป้องกันอาการท้องผูกได้อีกด้วย



Aug 19, 2009

ชาตะไคร้



เครื่องปรุง

- ตะไคร้ 3 ต้น
- ใบเตยหอม 3 ใบ

วิธีทำ

ล้างตะไคร้ให้สะอาด ทุบพอแตก หั่นเป็นท่อนๆ ใบเตยหอมล้างให้สะอาด ขยำพอช้ำ หั่น คั่ว ใส่ลงต้ม 5 นาที

สรรพคุณ

ใช้แก้ท้องอืดเฟ้อ แน่นจุกเสียด ทั้งยังขับปัสสาวะสำหรับผู้ที่มีอาการขัดเบา แม้ไม่ถึงกับมีอาการบวมแขนขาก็ตาม น้ำมันตะไคร้ยังมีฤทธิ์ฆ่าเชื้อราและแบคทีเรีย จึงช่วยให้ทางเดินอาหารและทางเดินหายใจส่วนบนสะอาด ป้องกันหวัดได้





กินอะไรให้ใบหน้าชุ่มชื่น



ใบหน้าจะชุ่มชื่นได้ต้องอาศัยวไวตามิน เอในจำนวนที่มากกว่าได้รับปริมาณปกติและควรปฏิบัติดังนี้

1. งดการใช้ครีมล้างหน้า เพราะเมืองไทยเป็นเมืองร้อนถ้าใช้ครีมล้างหน้าแล้วจำเป็นต้องใช้กระดาษเช็ดออกความจริงแล้วใบหน้าที่เปื้อนเหงื่อไคลและฝุ่นละอองควรจะต้องใช้สบู่และใช้น้ำล้างจะทำให้สะอาดมากกว่า

2. การใช้ครีมรองพื้นอยู่ตลอดเวลาก็จะทำให้อุดรูขุมขนและเหงื่อทำให้เกิดการอุดตันของของเสียได้

3. ควรบำรุงด้วยโภชนาการ ผักที่มีไวตามินเอสูง ในปริมาณ 100 กรัมจะมีไวตามิน เอ ดังนี้
++ ใบยอ มีไวตามิน เอ 43,333 หน่วย
++ ใบแมงลัก มีไวตามิน เอ 26,000 หน่วย
++ ผักตำลึง มีไวตามิน เอ 18,608 หน่วย
++ ยอดแค มีไวตามิน เอ 12,466 หน่วย
++ ใบขี้เหล็ก มีไวตามิน เอ 7,625 หน่วย
++ ผักบุ้งจีน มี ไวตามิน เอ 6,300 หน่วย
++ ใบโหระพา มีไวตามิน เอ 20,712 หน่วย
++ ผักขมหนาม มีไวตามิน เอ 11,090 หน่วย
++ ยอดมะละกอ มีไวตามิน เอ 18,250 หน่วย
++ ชะอมมีไวตามิน เอ 10,066 หน่วย
++ กระถิน มีไวตามิน เอ 7,883 หน่วย

ไวตามินเอจะช่วยสิ่งที่เป็นพื้นผิวของร่างกายทั้งภายนอกและภายใน ทางภายนอกก็คือ ผม เล็บ นัยน์ตา ทางภายในก็คือ เยื่อบุพื้นผิวภายในทั้งหลาย เยื่อบุผิวในปาก ในลำไส้ หรือที่เรียกว่าทางเดินอาหาร ทางเดินหายใจ และเยื่อบุพื้นผิวที่ไหน ๆ ก็ต้องอาศัยไวตามิน เอทั้งสิ้น

นอกจากจะได้รับไวตามิน เอ จากธรรมชาติแล้ว ยังสามารถได้รับ ไวตามิน เอที่สกัดเรียบร้อยแล้ว เช่น รัป
ประทานวันละ 1 แคปซูล (ขนาด 25,000 ยูนิต) สองสัปดาห์หลังจากนั้นรับประทานวันเว้นวัน จะทำให้ผิวหนังสวยอ่อนนุ่มกว่าเดิม เส้นผมเป็นเงา


ที่มา www.horapa.com



เกี๊ยวห่อครีมชีส





ส่วนผสม 2-3 ที่


เครื่องปรุง

แผ่นเกี๊ยว 26-30 แผ่น
ครีมชีส 500 กรัม
เนื้อปู 100 กรัม
ต้นหอมซอย 3 ต้น
ไข่ไก่ 1 ฟอง
น้ำมัน 1 ถ้วย

วิธีทำ

1. นำครีมชีส เนื้อปู และต้นหอม มาผสมรวมกัน ปั้นให้เป็นก้อนกลม ๆ ขนาดพอคำ ห่อด้วยแผ่นเกี้ยวให้สวยงาม

2. ทาขอบให้ติดกันด้วยไข่แดง จากนั้นนำไปทอดในน้ำมันร้อนปานกลาง

3. เมื่อสุกและเหลืองกรอบดีแล้ว ตักขึ้นพักให้สะเด็ดน้ำมัน เสิร์ฟพร้อมน้ำจิ้มบ๊วยตามชอบ



ที่มา horapa.com

ห้ามคนท้องนั่งทับธรณีประตู



บ้านในสมัยโบราณจะมีธรณีประตูอยู่ทุกบานประตู เชื่อกันว่าเป็นสิ่งที่ไม่ควรเหยียบ คือเมื่อเดินผ่านก็ให้ข้ามเสีย หรือห้ามนั่งทับอย่างเด็ดขาด และยิ่งกับหญิงมีครรภ์ด้วยแล้ว คนโบราณถือกันมาก ห้ามนั่งทับธรณีประตู เพราะเชื่อกันว่า จะทำให้หญิงนั้นคลอดลูกยาก หรือคลอดแล้วอาจทำให้ไม่แม่ก็ลูกต้องเสียชีวิต เพราะผีบ้านผีเรือนโกรธมาเอาตัวไป

แต่เมื่อใดที่เผลอไปนั่งทับธรณีประตูแล้ว ก็ให้จุดธูปเทียนบอกเล่าขอขมาแต่ผีบ้านผีเรือนเสีย

เรื่องความเชื่อถือเช่นนี้ก็อยู่ที่ว่า แต่ละบุคคลจะให้ความเชื่อถือแต่ไหน หรือจะคิดว่า เชื่อไว้ไม่เสียหาย ก็ดูจะไม่ผิดแต่อย่างใด


ที่มา http://www.sf.ac.th/



เลือกรองเท้าคู่ใจคู่ใหม่ในราศีของคุณ



สาวราศีมังกร
เป็นคนพูดน้อย แต่มีความรับผิดชอบเรื่องงานสูงมาก สาวราศีนี้จึงเหมาะกับรองเท้าคู่เก่งที่ให้ความคล่องตัว เช่นรองเท้าส้นแบนแต๊ด (หรือ flat shoes ที่กำลังอินอยู่ตอนนี้พอดี) ยิ่งถ้าเลือกหัวมนเหมือนรองเท้าบัลเล่ต์จะยิ่งทำให้ดูน่ารักและมีเสน่ห์ขึ้นอีกเยอะ ไม่ว่าจะใส่คู่กับกระโปรง หรือกางเกงยีนก็ดูดีไปซะหมด สีรองเท้าที่เหมาะ น้ำเงิน, ฟ้า, น้ำตาล
สาวราศีกุมภ์
สำหรับสาวชอบเข้าสังคม เป็นคนสนุกสนานเฮฮา และอยากรู้อยากเห็นสิ่งใหม่ๆอย่างสาวราศีกุมภ์ ถ้าเลือกใส่รองเท้าที่มีลูกเล่นประดับประดาพราวพรายด้วยประกายวิบวับอย่างคริสตัลสี (bejeweled shoes) ก็จะช่วยเสริมให้คุณโดดเด่นเป็นที่สนใจ ไปไหนก็เป็นที่รักใคร่เอ็นดูของคนรอบข้างอย่างแน่นอน สีรองเท้าที่เหมาะ สีสดๆ เช่นแดงสด, ม่วงสด หรือสีเมทัลลิก เช่น เงิน, ทอง
สาวราศีมีน
แม้ภายนอกจะดูขี้อายกว่าสาวราศีอื่นๆ แต่ถ้าพูดถึงเรื่องการแต่งตัวสาวราศีมีนทั้งหลายจะยอมน้อยหน้าได้อย่างไร หากคุณเป็นสาวราศีมีนที่กำลังมองหารองเท้าคู่ใหม่ให้ตัวเองอยู่ละก็ แนะนำให้เลือกรองเท้าที่มีสายรัดส้น (sling back) หรือแบบไม่มีสายรัด (mule) ก็ได้ แต่ต้องทำจากผ้าซาตินสีหวานๆ เพราะช่วยแสดงความละเอียดอ่อน และโรแมนติกของคุณได้ดี ไม่ว่าจะใส่กลางวันหรือกลางคืนก็ทำให้คุณงามแจ่มบาดใจละไมตามากๆ สีรองเท้าที่เหมาะ สีพาสเทล เช่น ชมพูอ่อน, เขียวอ่อน สีน้ำตาลเอิร์ธโทน
สาวราศีเมษ
เรื่องความมั่นใจ ไอเดียบรรเจิดๆ และความซุปเปอร์เทรนดี้ของสาวราศีนี้ไม่มีกล้าใครปฏิเสธได้ สำหรับรองเท้าคู่โปรดปรานที่ช่วยให้สาวเมษลัคกี้อินเกมและอินเลิฟตลอดกาล ต้องเป็นรองเท้าส้นเล็กแหลมเปี๊ยบ (kitten heels) ซึ่งเสริมความเป็นผู้ยิ้งผู้หญิงของคุณออกมาอย่างแรงแบบไม่มีใครเกิน สีรองเท้าที่เหมาะ แดงสด, ฟ้าสด, น้ำตาล
สาวราศีพฤษภ
สาวราศีนี้เป็นนักปฏิบัติ ชอบหาอะไรใหม่ๆทำ เข้าข่ายไฮเปอร์ไม่ยอมหยุดอยู่นิ่ง รองเท้าคู่กายที่ขาดไม่ได้ของเธอจึงต้องเน้นประโยชน์ใช้สอย ทนทานและดูแลรักษาง่าย พร้อมลุยในทุกสถานการณ์ นอกจากบู๊ตแล้ว รองเท้าคัชชูหัวมน (Pumps) ก็เหมาะมากกับสาวพฤษภ ช่วยเสริมให้ดูเป็นคนหนักแน่น มั่นคง ดูเอาจริงเอาจัง สีรองเท้าที่เหมาะ สีดำ, น้ำตาล, น้ำเงิน, แดงเลือดหมู
สาวราศีเมถุน
เพราะเป็นสาวเฟลิร์ตตี้ มีความสมาร์ทปนเซ็กซี่อยู่ในตัว และเป็นนักอ่านแมกกาซีนตัวยง ดังนั้นจึงไม่น่าแปลกใจหากสาวราศีนี้จะอัพเดทเกาะติดเทรนด์แฟชั่นอยู่แถวหน้าเสมอๆ ส่วนในที่ทำงานเธอก็ได้ชื่อว่าเป็น Office Queen ด้วยสไตล์การแต่งตัวที่เก๋เริ่ดเกินหน้าใคร แม้สาวราศีนี้จะขาดไม่ได้เลยกับรองเท้าแบรนด์เนมซึ่งต้องมีเก็บไว้ในตู้ แต่หากเป็นรองเท้าทรงหัวแหลมเปี๊ยวดูเพรียวชะลูดก็จะส่งเสริมหน้าที่การงานให้มีอนาคตก้าวไกลได้ สีรองเท้าที่เหมาะ สีฟ้า, เขียว, เหลือง, ดำ
สาวราศีกรกฎ
ขึ้นชื่อว่าเป็นสาวอาร์ติสต์ชอบทำอะไรตามอารมณ์ รวมถึงเรื่องการแต่งตัว หากเธอได้รับการ์ดเชิญไปงานที่ระบุ dress code ขึ้นมาเมื่อไหร่ สาวกรกฎจะไม่สนใจ ขอใส่แบบที่คิดว่าสวยเด็ดสำหรับเธอเท่านั้น แต่วันไหนสาวราศีนี้อยากลุกขึ้นมาปฏิวัติตัวเองบ้าง แนะนำให้เลือกรองเท้าส้น platform heels เพราะจะทำให้ดูเป็นสาวนุ่มนวลน่าทะนุถนอมทีเดียวละ สีรองเท้าที่เหมาะ สีน้ำตาล, ฟ้า, น้ำเงิน, เขียว
สาวราศีสิงห์
เป็นคนชอบแต่งตัวเปรี้ยวจี๊ดอินเทรนด์ตลอดกาล ชนิดที่เรียกว่าเป็นสาวกแบรนด์เนมอันดับต้นๆก็ว่าได้ ถ้ามีรางวัลแต่งตัวดียอดเยี่ยม ต้องขอยกตำแหน่งนี้ให้เธอไปครอบครอง เพราะไม่ว่าจะหยิบจับอะไรมาใส่ก็มักได้รับคำชมจากคนรอบข้างเสมอๆ รองเท้าที่จะช่วยสร้างเสน่ห์และเสริมส่งความน่ารัก(ให้มากยิ่งขึ้นกว่าเดิม)สำหรับสาวราศีนี้ ต้องเป็นส้นสูงปรี๊ด (Stiletto) รับรองว่าขาจะดูเรียวเพรียวเซ็กซี่ทุกย่างก้าวที่เดิน แต่ยังไงก็อย่าเพลินกระหน่ำความสูงมากไปละกัน เดี๋ยวปวดหลังแล้วจะหาว่าไม่เตือน สีรองเท้าที่เหมาะ สีแดง, ส้ม, ทอง, เงิน
สาวราศีกันย์
เซนส์ในการแต่งตัวเป็นคุณสมบัติโดดเด่นของสาวราศีกันย์ ซึ่งมีความสามารถเฉพาะตัวในาร mix and match เสื้อผ้า รองเท้า และกระเป๋าให้เข้ากันอย่างไม่มีที่ติ หากสาวกันย์เลือกใส่รองเท้าสไตล์คลาสสิกยอดฮิต อย่างเช่นส้นสูงไม่มีสายรัด (mule) หรือ เปิดด้านหน้า (open-toed) ก็จะช่วยให้การงานปลอดโปร่งจากปัญหาหรืออุปสรรคมาขัดขวาง ทำอะไรก็ราบรื่น ผ่านฉลุยลูกเดียว สีรองเท้าที่เหมาะ สีเขียวหยก, ม่วง, น้ำตาล, ดำ
สาวราศีตุลย์
แม้จะให้ความสำคัญกับความเนี้ยบเป็นอันดับหนึ่ง แต่สไตล์การแต่งตัวของสาวราศีตุลก็ยังคงนิยมความเรียบง่ายเข้าไว้ก่อน เพราะยึดคติว่า less is more คือ ยิ่งน้อยชิ้นเท่าไหร่ยิ่งดี และด้วยบุคลิกเรียบโก้ แน่นอนว่ารองเท้าที่สาวราศีตุลย์มีไว้เป็นเพื่อนคู่ใจจึงไม่ค่อยมีดีเทลจุกจิกนัก กระนั้นถ้าหากเลือกรองเท้าส้นเตารีด (wedges) มาใส่สักคู่ เพราะจะช่วยนำพาความมั่นคงก้าวหน้ามาสู่ชีวิต มีคนคอยอุปถัมภ์ค้ำจุน พูดจาอะไรก็น่าเชื่อถือ สีรองเท้าที่เหมาะ สีขาว, เอิร์ธโทน, ฟ้า, น้ำเงิน
สาวราศีพิจิก
ลักษณะเด่นของสาวราศีนี้ คือเป็นคนขรึม ชอบใช้ชีวิตอิสระและมีโลกส่วนตัวสูง แม้บางครั้งเจ้าอารมณ์ เอาใจยาก แต่ก็มีข้อดีคือโกรธง่ายหายเร็ว ถ้าใส่รองเท้าแบบเปลือยๆ จะช่วยเสริมท่วงท่าลีลาการเดิน เปิดทางให้เป็นคนกว้างขวาง มีคนเมตตา คิดจะลงทุนอะไรก็ไม่ติดขัด สีรองเท้าที่เหมาะ สีแดงเข้ม, น้ำเงิน, ดำ
สาวราศีธนู
เป็นคนช่างแต่งตัว ขี้เล่น และชอบสร้างสรรค์สิ่งแปลกใหม่ให้ชีวิต ดังนั้นจึงไม่มีรองเท้าแบบไหนจะเหมาะกับสาวราศีนี้เท่ากับรองเท้าหนังสีสันชวนเตะตา ที่มาพร้อมกับลูกเล่นวัสดุตกแต่งต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นโบว์ ดอกไม้ เฟอร์ หรือผ้าพิมพ์ลายกราฟฟิก ซึ่งนอกจากจะทำให้คุณมีลีลาสวยสง่าทุกโอกาสแล้ว ยังเสริมส่งโชคดีทางด้านการเงินอีกด้วย ที่มา forward mail

Aug 18, 2009

EcoRescue Project Rainforest v1.0 GAME-CzW



Use your hidden object skills to clean up the world’s rainforests, and see how much fun making a difference can be!

Features:

* Travel the world on a hidden object mission to save the planet
* Search for hidden objects in gorgeous scenes of Earth’s rainforests
* Learn about each rainforest and meet the animals that live there
* Solve challenging mini-games and original puzzles
* No time limit means relaxing fun for everyone

Release name: EcoRescue.Project.Rainforest.v1.0.GAME-CzW

Size: 102.56 MB

Download:
http://hotfile.com/dl/10413552/0d44c35/DL4ALL.COM.EcoRescue_-_Project_Rainforest.rar.html


Credit : soft22

ESET Cumulative Offline Update 4337 (20090815 32/64-bit)



ESET Cumulative Offline Update 4337 (20090815 32/64-bit)

Update any ESET product

(32-bit/64-bit) from a local folder (no username or password required) ! This application installs the latest virus signature database updates and program components updates (modules) into any location, including removable media (definitions are portable).

Once they were extracted, the definitions can be used to update an ESET product locally, or ported to another computer. Username or password are not required on the target computer to update the product.

The update source - referred to by ESET as 'update server' - should be properly set within the ESET configuration panel prior to updating the software (please refer to ESET Help file). Note: the installer does not make any change to the registry.

The installer includes updates for the following products:- ESET NOD32 / Smart Security 3.0x / 4.0x, 32-bit/64-bit (all editions)

How to configure your ESET product as follows (assuming you installed the definitions into C:\Update)

* For ESET NOD 32 3.x/4.x
- Go to Control Center, Update modules, NOD 32 Update
- Click Servers, add C:\Update as new server and click accept/ok
- Close all opened windows and Update ESET NOD 32 from tray icon

* For ESET Smart Security 3.x/4.x
- Toggle to display Advanced mode
- Go to Setup, choose Advanced setup
- Go to Update, right to the field 'Update server', click Edit
- Under Update servers, add C:\Update as new server, click Add and OK
- Close all opened windows and Update ESET Smart Security from tray icon

Download
http://letitbit.net/download/7200.75ab302e46a14af15260768760/eocu34_4337.exe.html

Mirror1
http://depositfiles.com/files/ulnw7v33s

Mirror 2
http://4files.net/418211

Mirror 3
http://free-share.ru/370628/23222/eocu34_4337.exe


Credit : kbh

F-Secure Internet Security 2009 9.50 for Windows 7



F-Secure Internet Security 2009
provides you with everything that is necessary to protect your computer against the internet threats and viruses that are out there today. This security software offers complete protection against malicious software with many high quality features that will make sure that your computer is up-to-date with the latest virus information and other online threats that arise continuously. This is especially made possible with its key feature, a new technology, F-Secure DeepGuard 2.0, that will constantly monitor the activities of your computer ensuring complete virus protection also against unknown viruses that are born every day. This software also includes features like award-winning antivirus, easy-to-use personal firewall, an improved antispyware. Additionally, the software filters unwanted spam and so called phishing attempts from your eMail. With the parental control you can control which websites are accessible from your computer and block the websites with questionable content.

Key Features

* Complete virus protection software against worms and unknown attacks

* Detects and removes spyware from your computer

* Protects your computer against hackers

* Helps you stay free from spam eMail and phishing attempts

* Protects your children against unwanted Internet content.

* Quicker where it mattersNEW! Quick and easy installation, faster boot-up times and faster scanning and cleaning of files.

* Protects your computer against viruses, worms and unknown attacksWith automatically updated virus protection from the world-renowned F-Secure Data Security Laboratory and the new F-Secure DeepGuard 2.0 technology that instantly protects you against zero-day attacks and other future threats, you can safely use your computer, now and tomorrow.

* Detects and removes spyware from your computerF-Secure Internet Security detects and removes secretly installed software from your computer better than ever before, ensuring that your system is running smoothly and clean of spyware.

* Protects your computer against hackersYou can keep your private data to yourself with the personal firewall that stops hackers from breaking into your computer.

* Helps you stay free from spam e-mail and phishing attemptsF-Secure Internet Security filters unwanted spam and e-mail schemes designed to steal your private information.

* Protects your children against unwanted Internet contentF-Secure Internet Security ensures that your children or teenagers do not enter objectionable sites or surf the Internet when you are not around.

Download:
http://rapidshare.com/files/267762928/--www.dl4all.com--F-Secure.Internet.Security.2009.9.50.rar

Password: www.dl4all.com

Credit : Amiri

Password Recovery Kit Enterprise v9.3 build 818



* All 30+ password recovery modules and Encryption Analyzer now combined in an all-in-one user interface

* Includes 5 Decryptum Credits for instant online decryption of MS Word and Excel files (up to version 2003)

* Multiple-core CPUs are now efficiently used to speed up the password recovery process

* 8 different attack types (and any combination of them) could be set up using a wizard or drag & drop attacks editor

* Multiple nVidia GPUs (where available) can be used to accelerate MS Office 2007 password recovery speed by 3500%

* Tableau TACC hardware accelerators are used to speed up the password recovery process by up to 25 times New!

* All recovered passwords are saved and ready to be reused on other files

* 30-day money-back guarantee

Download:
http://uploading.com/files/QWRFR2SQ/Password_Rec_Kit_Ets_v9.3_881_dl4all.com.msi.html
http://uploading.com/files/OE1VG0X4/serial.txt.html

Mirror:
http://www.egoshare.com/download.php?id=97DFF65145
http://www.midupload.com/wv2ebwjeb4kh

Mirror 2:
http://rapidshare.com/files/268004688/Password_Recovery_Kit_Enterprise_v9.3_2881.msi
http://rapidshare.com/files/268010425/serial.txt


Credit : les fonctions











ยิ้มกริ่ม 146

แต่งบ้านให้มีความอุดมสมบูรณ์






เลือกของแต่งบ้านให้ถูกหลักฮวงจุ้ย เพื่อเสริมชะตาของเจ้าบ้าน เป็นเรื่องที่ไม่ควรละเลย เพราะนอกจากจะได้รับความสวยงามจากการตกแต่งแล้ว ยังมีประโยชน์ทางอ้อมด้วยนะ

ถ้าบ้านของคุณที่มีพื้นที่ที่กว้างพอจะตกแต่งสวนเล็กๆ น่าที่จะหาอ่างบัวมาตกแต่งสวยด้วย และอาจจะเลี้ยงปลาหางนกยูงในอ่างเพื่อให้เป็นมงคลด้วยจะดียิ่งขึ้น

อ่างบัว เป็นของตกแต่งบ้านที่เป็นมงคลในทางที่มีความหมายถึงความอุดมสมบูรณ์ เมื่อคุณนำอ่างบัวมาไว้ในบริเวณบ้าน ครอบครัวของคุณจะมีความสุข สามีและภรรยาจะมีความผูกพันและเข้าใจกันดี ฐานะมั่นคง เป็นอยู่อย่างสมบูรณ์พูลสุขไม่ขัดสน

เมื่อคุณมีอ่างบัวแล้ว คุณจะต้องมั่นดูแลอ่างบัวให้สวยงามอยู่เสมอ หมั่นเด็ดใบเสียทิ้งและดูแลความสะอาดของน้ำ หากบ้านของคุณมีบริเวณที่มากพอ คุณสามารถติดตั้งอ่างบัวได้หลาย ๆ จุด หลาย ๆ มุม เพื่อความสวยงามของบ้าน

สำหรับบ้านที่มีบริเวณของพื้นที่บ้านไม่มาก หรือไม่มีพื้นที่นอกบ้านก็สามารถตั้งอ่างบัวไว้ในบ้านได้ และตำแหน่งที่เหมาะสมที่วางนั้นควรจะเป็นมุมของห้องรับแขก

การใช้อ่างบัวในการตกแต่งบริเวณบ้าน นอกจากจะให้ความร่มเย็น เป็นสิริมงคลแล้ว จะช่วยให้บ้านของคุณสดชื่นมากขึ้นอีกทางด้วย

ข้อมูล www.freesplans.com/