Aug 26, 2009

แนะนำวิธีบรรเทาปวดหลังทำง่ายๆ ด้วยตัวคุณ!







ยกหนักยกเบาหายห่วง สร้างความแข็งแรง บริหารง่าย

ผู้ที่ทำงานในออฟฟิศ คงเคยมีอาการปวดหลังและคอ เนื่องมาจากการนั่งพิมพ์งานหน้าคอมพิวเตอร์เป็นเวลานาน หรืออาจเกิดมาจากโรคต่างๆ ที่ไม่เกี่ยวกับกระดูกสันหลัง ซึ่งบางครั้งอาจกินเวลานาน และสร้างความทรมานเป็นอย่างยิ่ง อาการปวดเหล่านั้นสามารถรักษาให้หายด้วยวิธีง่ายๆ ที่สามารถทำได้เองที่บ้าน

นพ.นันทเดช หิรัณยัญฐิติ ศัลยแพทย์ปวดหลังและข้อ โรงพยาบาลบำรุงราษฎร์ อินเตอร์เนชั่นแนล กล่าวว่า สาเหตุที่ทำให้ทุกคนมีอาการปวดหลังและคอนั้น เกิดจากหลังส่วนล่างเป็นบริเวณที่รับน้ำหนักของร่างกายมากที่สุด และเกิดอาการปวดบ่อยที่สุด อาการปวดหลังโดยทั่วไปมักเกี่ยวข้องกับกระดูกสันหลัง หมอนรองกระดูกสันหลังหรือกล้ามเนื้อที่คอยพยุงหลัง และจะปวดขึ้นมาเมื่อไรก็ได้ ในหลายๆ กรณี

ผู้ป่วยส่วนใหญ่อาจหายจากอาการปวดเล็กๆ น้อยๆ ได้ภายใน 2 สัปดาห์ด้วยการบำบัดเพียงเล็กน้อย แต่ในกรณีที่อาการปวดคงอยู่เป็นเวลาเกินกว่า 4 สัปดาห์ ควรไปพบแพทย์เพื่อรับการตรวจเพิ่มเติมเพราะอาจเป็นสัญญาณของโรคร้าย ส่วนมากแล้ว ประมาณร้อยละ 80 ของโรคปวดหลังจะมีสาเหตุมาจากอาการหลังตึง ส่วนสาเหตุอื่นๆ มีดังนี้ การบาดเจ็บจากอุบัติเหตุหรือหกล้ม, หมอนรองกระดูกเสื่อม อันเป็นผลมาจากกระดูกอ่อนที่หุ้มกระดูกสันหลังแต่ละปล้องเกิดการฉีกขาด และสาเหตุอื่นๆ ที่ไม่เกี่ยวกับกระดูกสันหลัง เช่น มะเร็ง นิ่วในไต หรือภาวะติดเชื้อต่างๆ

สำหรับการรักษาโรคปวดหลังและคอนั้น ส่วนใหญ่อาจรักษาให้หายได้โดยไม่ต้องใช้วิธีที่ซับซ้อนนัก เพียงพักผ่อนประมาณ 2-3 วัน รับประทานยาแก้อักเสบร่วมกับการประคบเย็นเพื่อลดอาการบวม และลดการหดเกร็งของกล้ามเนื้อก็จะดีขึ้นได้ภายใน 2สัปดาห์ สำหรับอาการปวดหลังเรื้อรัง แพทย์จำเป็นต้องใช้วิธีการรักษาที่ครอบคลุมหลายด้านมากขึ้น โดยอาจรวมการทำกายภาพบำบัดเป็นต้น

สำหรับคนที่ยังไม่มีอาการปวดหลังและคอ ก็ควรสร้างความแข็งแรงให้กับหลังเป็นดีที่สุดด้วยท่าบริหารง่ายๆ ต่อไปนี้คุณสามารถทำที่บ้าน โดยไม่ต้องอาศัยอุปกรณ์พิเศษใดๆ เริ่มที่

* การยกของหนักหรือเบา ควรปฏิบัติดังต่อไปนี้

- ย่อเข่าเพื่อทำการยกโดยพยายามให้หลังตรงเสมอ ไม่ควรโน้นตัวลง

- เกร็งกล้ามเนื้อหน้าท้อง แล้วยกโดยใช้กล้ามเนื้อขา

- ยืดเข่าขึ้น ยืนให้มั่นคง

- พยายามอย่ายกของหนักซึ่งตั้งอยู่สูงกว่าระดับเอว

- ยกของโดยให้ของอยู่ชิดตัวเพื่อกระจายน้ำหนัก

- เมื่อจะวางของย่อเข่าลง ใช้กล้ามเนื้อขาอย่าให้หลังงอ

* คงปฏิเสธไม่ได้ว่าการนอนนั้นมีผลทำให้หลังของเราปวดได้ ดังนั้นท่านอนที่ดีต้องเริ่มจาก

- ไม่ควรวางหมอนไว้ใต้ไหล่ วางหมอนไว้ใต้ศีรษะอย่าให้หมอนหนาเกินไป

- พยายามนอนในท่าที่หลังโค้งได้อย่างเป็นธรรมชาติ

- อย่านอนคุดคู้

- ไม่ควรนอนคว่ำ เพราะจะทำให้คุณเมื่อยคอและหลัง

- เลือกที่นอนที่ดีต่อสุขภาพหลัง อย่าให้นุ่มจนเกินไป

ที่มา: หนังสือพิมพ์ผู้จัดการรายวัน


No comments: