Showing posts with label News. Show all posts
Showing posts with label News. Show all posts

May 20, 2011

คลิป นักศึกษาจีนมีเซ็กส์ในชั้นเรียน ว่อนเนตชัดมาก [15+]

6.jpg

3.jpg


คนเราจะรักกันไม่ใช่เรื่องแปลกแต่ อย่างใด แต่การแสดงออกที่เกินงามก็ก่อให้เกิดความเสียหายได้อย่างมหาศาล ล่าสุดมีมือดีปล่อยคลิปฉาวของคู่รักคู่หนึ่ง ซึ่งเป็นนักศึกษาของมหาวิทยาลัยเหอเป่ย กำลังร่วมรักกันอย่างเมามัน

ในคลิปนั้นบันทึกภาพของหญิงสาวในชุดสี ขาวและชายหนุ่มรูปร่างกำยำ กำลังมีเพศสัมพันธ์กันบริเวณหลังเสาของห้องว่างในมหาวิทยาลัย โดยคลิปดังกล่าวถูกบันทึกไว้นานถึง 15 นาทีเลยทีเดียว

จากคลิปนี้ทำให้ทั้ง 2 คนถูกวิพากษ์วิจารณ์ถึงการประพฤติตัวที่ไม่เหมาะสม ไร้ยางอาย เพราะทั้งคู่อยู่ในวัยที่ยังขอเงินพ่อแม่ใช้ แต่กลับทำพฤติกรรมที่ไม่เหมาะสมแทนการตั้งใจเรียนข่าวต่างประเทศรายงานว่า คลิปการมีเซ็กส์ของนักเรียนวัยรุ่นของมหาวิทยาลัยสารพัดช่างเหอเป่ย (Hebei Polytechnic University) วิทยาลัยอุตสาหกรรมซึ่งถ่ายเมื่อฤดูร้อนปีที่ แล้วในห้องเรียนที่ไม่มีคน ถูกเผยแพร่ผ่านกล้องวงจรปิดของห้องโดยนักเรียนในมหาวิทยาลัยเดียวกัน มีความยาว 15 นาที ถ่ายด้วยระบบภาพความละเอียดสูง (high definition)

ทั้ง นี้เนื้อหาในคลิปได้รับการยืนยันว่าถูกถ่ายตอนพักกลางวัน โดยนักเรียนหญิงในภาพนั้นผมยาวดัดเป็นลอนสีประกายทอง สวมกระโปรงสีขาว ส่วนนักเรียนชายรูปร่างสูงมีกล้าม สวมเสื้อยืดสีขาวผมสั้นเกรียน

ด้าน ความคิดเห็นส่วนใหญ่ของคนที่อ่านข่าวนี้ต่างวิพากษ์วิจารณ์ทั้งผู้ที่นำคลิ ปมาเผยแพร่ว่าเป็นพวกว่างงานไม่มีอะไรทำ คอยสร้างความเดือดร้อนให้คนอื่น ไม่เห็นใจนักเรียนที่ตกเป็นจำเลยของสังคม และบางคนวิจารณ์การกระทำของนักเรียนทั้งสองคนว่าไม่เหมาะสม ทำลายอนาคตตัวเอง



เครดิต http://www.bbberry.net

Apr 21, 2011

'นิ่ว' ในถุงน้ำดี


‘นิ่ว’ ในถุงน้ำดี เป็นอีกหัวข้อหนึ่งที่แฟน ๆ ถามไถ่เข้ามาพอสมควร ฉบับนี้จึงขออาสาไขปัญหาเรื่องนิ่วให้หายข้องใจกัน
   
ก่อนอื่นเลย “ถุงน้ำดี” เป็นอวัยวะที่มีหน้าที่เก็บน้ำดี และบีบตัวนำน้ำดีมาสู่ลำไส้เล็กผ่านทางท่อทางเดินน้ำดีและเป็นอวัยวะที่มีลักษณะเป็นถุงคล้ายถุงกาแฟ ตำแหน่งของ
ถุงน้ำดีจะอยู่บริเวณช่องท้องด้านขวาบนและอยู่ใต้ท่อตับกลีบขวา  ซึ่งน้ำดีมีหน้าที่ช่วยในการย่อยไขมันเมื่อรับประทานอาหารที่มีไขมันเป็นส่วนประกอบ

นิ่วในถุงน้ำดีเกิดขึ้นได้อย่างไร?
   
เกิดจากความผิดปกติของส่วนประกอบท่อน้ำดีที่มีคอเลสเตอรอล และบิลิรูบิน ซึ่งก็คือส่วนประกอบที่เกิดจากการทำลายเม็ดเลือดแดงที่หมดสภาพการทำงานแล้วในสัดส่วนที่ผิดปกติไป นิ่วในถุงน้ำดีนั้นสามารถพบได้ร้อยละ 10  ถึง 15 ในผู้ใหญ่ โดยส่วนมากจะพบในผู้หญิงราว 10% และในผู้ชาย 6.5% โดยเพียงแค่ 30% ในผู้ที่มีนิ่วในถุงน้ำดีเท่านั้นที่จะแสดงอาการ

ปัจจัยเสี่ยงต่อการเกิดนิ่วในถุงน้ำดีมีอะไรบ้าง?
   
ส่วนมากจะพบนิ่วในถุงน้ำดีในผู้หญิงได้มากกว่าในผู้ชาย หากมีน้ำหนักตัวมาก หรือดัชนีมวลกายมากกว่า 30% ก็มีโอกาสเป็นนิ่วในถุงน้ำดีได้มาก ส่วนในผู้ที่ลดน้ำหนักลงอย่างรวดเร็ว (ลดความอ้วน) ก็มีความเสี่ยงได้ด้วยเช่นกัน

อาการที่พบเป็นอย่างไร?
   
จะมีอาการปวดท้องบริเวณท้องด้านขวาส่วนบน ซึ่งจะปวดอยู่นานเป็นชั่วโมงกว่าอาการจะดีขึ้น และมักจะมีอาการเวลากลางคืน และหลังทานอาหารเย็น นอกจากนี้ยังมีอาการปวดร้าวที่เอวด้านขวา หรือสะบักขวาได้ อาการอื่น ๆ ที่พบได้อีกเช่น มีอาการปวดร้าวทะลุหลังตรงกลางท้อง อาการตาเหลืองตัวเหลืองหรือมีดีซ่าน ร่วมกับมีไข้

การวินิจฉัยของแพทย์
   
เมื่อมาพบแพทย์ แพทย์จะทำการซักประวัติและตรวจร่างกายโดยละเอียด จากนั้นจะทำการส่งตรวจอัลตราซาวด์ทางช่องท้อง เพื่อดูว่ามีนิ่วในถุงน้ำดีหรือไม่ ซึ่งเป็นการตรวจที่ง่ายและไม่เจ็บตัว

เมื่อตรวจพบว่าเป็นนิ่วในถุงน้ำดีแล้ว มีวิธีการรักษาอย่างไร?
   
เมื่อตรวจพบว่ามีนิ่วในถุงน้ำดีแล้วนั้นไม่จำเป็นต้องผ่าตัดทุกราย การรักษาจะทำการผ่าตัดได้ก็ต่อเมื่อมีอาการของนิ่วในถุงน้ำดี หรือเกิดภาวะแทรกซ้อนจากนิ่วในถุงน้ำดีแล้ว อย่างเช่นถุงน้ำดีอักเสบ นิ่วตกมาอยู่ในท่อน้ำดีเกิดท่อน้ำดีอักเสบ ตับอ่อนอักเสบจากนิ่ว เป็นต้น
   
การรักษาโดยการผ่าตัดนั้น จะตัดถุงน้ำดีออกทั้งหมด ไม่ใช่แค่เอานิ่วออกอย่างเดียวเท่านั้นเพราะการเอานิ่วออกอย่างเดียวไม่สามารถรักษาโรคให้หายขาดได้ ซึ่งการรักษาแบ่งออกเป็น
   
การส่องกล้องผ่าตัดเอาถุงน้ำดีออก ซึ่งเป็นการรักษาที่เป็นมาตรฐานในปัจจุบัน ในกรณีนิ่วในถุงน้ำดีที่มีอาการและแม้กระทั่งในกรณีถุงน้ำดีอักเสบเฉียบพลัน มีวิธีการรักษาคือ ผู้ป่วยนั้นต้องดมยาสลบและจะมีแผลที่หน้าท้องขนาด 1.0-1.5 เซนติเมตร หรือขนาด 5 มิลลิเมตร จำนวน 3-4 แผล ทั้งนี้ก็แล้วแต่เทคนิคของศัลยแพทย์แต่ละท่าน ซึ่งการผ่าตัดแบบนี้จะทำให้แผลมีขนาดเล็ก และมีการฟื้นตัวของผู้ป่วยจะเร็ว กลับบ้านได้เร็ว
   
การผ่าตัดแบบเปิดหน้าท้อง ในกรณีที่ไม่สามารถทำผ่านการส่องกล้องได้ เช่น เกิดอันตรายต่อท่อน้ำดีหรือเส้นเลือด หรือทำการผ่าตัดเปิดท่อน้ำดี ร่วมกับการทำผ่าตัดทำทางเชื่อมท่อน้ำดีกับลำไส้ใหม่ ก็จะมีแผลบริเวณใต้ชายโครงขวาขนาดใหญ่
   
ในกรณีที่ผู้ป่วยไม่มีอาการแสดงนั้นไม่จำเป็นต้องผ่าตัดทุกราย ยกเว้นในกรณีที่มีนิ่วขนาดใหญ่มากกว่า 2.5–3 เซนติเมตร หรือมีแคลเซียมเกาะอยู่ที่ผนังถุงน้ำดี หรือพบว่ามีติ่งเนื้อในถุงน้ำดี หรือมีโรคเลือดบางชนิด ซึ่งแน่นอนว่าการผ่าตัดอาจไม่ใช่หนทางในการรักษาที่เหมาะสม อาจต้องหาวิธีในการรักษารูปแบบอื่นต่อไป
   
หลังผ่าตัดถุงน้ำดีจะไม่มีถุงน้ำดีแล้ว จะมีผลต่อชีวิตประจำวันหรือไม่?
   
โดยปกติน้ำดีจะสร้างมาจากตับและเก็บในถุงน้ำดี เมื่อไม่มีถุงน้ำดีแล้วก็สามารถดำรงชีวิตประจำวันได้ตามปกติ  แต่ในกรณีที่กินอาหารที่มีไขมันสูงอาจทำให้มีอาการปวดจุกแน่นท้องได้ หรือมีท้องอืดได้เล็กน้อย.

นพ.ณรงค์ศักดิ์ รุ่งสกุลกิจ
หน่วยศัลยศาสตร์ตับ ตับอ่อน และทางเดินน้ำดี

 * ข่าวประชาสัมพันธ์ * ขอเชิญเข้าร่วมกิจกรรมเผยแพร่ความรู้สู่ประชาชนโดยการจัดบรรยายพิเศษเรื่อง “นิ่วและมะเร็งในถุงน้ำดี” ในวันที่ 28 เมษายน 2554 เวลา 08.30-12.00 น. ณ ห้องประชุมอรรถสิทธิ์ เวชชาชีวะ ชั้น 5 ศูนย์การแพทย์สิริกิติ์ คณะแพทยศาสตร์โรงพยาบาลรามาธิบดี สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ หน่วยแนะแนวและปรึกษาปัญหาสุขภาพ โทร. 0-2201-2521

จาก หมอรามา ไขปัญหาสุขภสพ เดลินิวส์



Thank you : Fw.Mails & เมืองไทยร้อนจัง

5 เมืองที่ได้รับการโหวตว่า "อาหารอร่อยที่สุด"



อันดับ 5 New York - Pluralism Food  


ถ้าพูดถึงมหานครนิวยอร์กในอเมริกาล่ะก็ บอกได้เลยว่าเป็นเมืองที่มีการผสมผสานของหลายวัฒนธรรม มีคนต่างชาติเข้ามาอาศัยอยู่เป็นสิบเป็นร้อยเชื้อชาติ ดังนั้นร้านอาหารในเมืองนี้จึงเรียกได้ว่าเป็นร้านอาหารนานาชาติเพราะมี อาหารของแทบทุกชาติขายอยู่ที่นี่ ไม่ว่าจะเป็นร้านอาหารไทย ร้านพิซซ่า ร้านอาหารจีน ร้านบุฟเฟต์ญี่ปุ่น ร้านบุฟเฟต์ช็อกโกแล็ต ร้านอาหารฝรั่งเศส เป็นต้น เรียกได้ว่าแค่ที่นิวยอร์กที่เดียว สามารถทัวร์ชิมอาหารครบจากทั่วโลกเลยก็ว่าได้

อันดับ 4 Hong Kong - Simple but Delicious 


อาหารฮ่องกงนั้น เรียกได้ว่าแทบจะเหมือนอาหารจีน 100% เลยก็ว่าได้ แต่เท่าที่รู้สึก อาหารฮ่องกงจะมีรสชาติ และไม่จืดชืดเหมือนอาหารจีน สำหรับเมนูฮิตๆ ก็ไม่ใช่เมนูแปลกใหม่อะไรมากค่ะ ส่วนมากก็จะเป็นพวกโจ๊ก(หมูชิ้นใหญ่มากกก) บะหมี่เกี๊ยว(เกี๊ยวอันใหญ่เกือบเท่ากำปั้น) ติ่มซำ(เนื้อแน่นมาก) จะเห็นได้ว่าเป็นเมนูธรรมดามากๆ แต่มันต้องลอง !

อันดับ 3 Paris - Original French 


ไม่น่าแปลกใจที่ปารีสจะติดอันดับเข้ามา เพราะฝรั่งเศสเป็นแหล่งกำเนิดโรงเรียนสอนทำอาหารระดับโลกหลายแห่ง เชฟมือทองระดับโลกหลายคนต่างก็มีบ้านเกิดอยู่ที่นี่ เมนูฝรั่งเศสแบบออริจินัลที่ห้ามพลาด เช่น Cog au vin (ไก่อบซอสไวน์แดง) Soupe a l'Oignon au Fromage (ซุปหัวหอม) Pâté de Foie Gras (ตับบดเครื่องเทศ) รวมไปถึงของหวานจำพวกเบเกอรี่ต่างๆ ครัวซองต์ เครป ที่นี่เค้าก็ขึ้นชื่อระดับโลกทีเดียว


อันดับ 2 Rome - Meat Lover 


ถ้าอาหารอิตาเลียนไม่ติดอันดับก็คงจะแปลกๆ สิเนาะ เมนูหลักขึ้นชื่อคงไม่พ้นสปาเก็ตตี้ (หอมเนย ชีสเยิ้ม) แต่จริงๆ แล้ว ถ้าเป็นอาหารโรมแท้ๆ ส่วนมากจะเน้น "เนื้อ" เป็นหลักค่ะ เช่น Saltimbocca (เนื้อม้วน) Stufatino (สตูว์เนื้อ) Coda alla vaccinara (ซุปหางวัว) เรียกได้ว่าใครชอบกินเนื้อล่ะก็ ห้ามพลาด ! 


อันดับ 1.......
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.  

Bangkok - Thai food is The Best  


กรี๊ดดดดดดดดดดดดดดดด ขอกรี๊ดแรงๆ และดังๆ เลยค่ะ ฮ่าๆ ตอนเห็นผลโพลนี้นี่ยิ้มแก้มจะแตก ดีใจสุดๆ แต่ก็ปฏิเสธไม่ได้ว่าของเค้าดีจริงอะเนาะ 555555 ซึ่งเมนูของไทยที่ชาวต่างชาติเค้าเทใจให้ก็ไม่พ้นต้มยำ ส้มตำ ไก่ย่าง แกงเขียวหวาน ผัดไท หรือแม้แต่เมนูที่พวกเรามองว่าธรรมดาๆ อย่างข้าวผัดทั่วไป เค้าก็บอกว่าอร่อยค่ะ ! แต่ก็ว่าจริงนะคะ คือกินอาหารชาติอื่นยังไง สุดท้ายก็รู้สึกว่าอาหารบ้านเราอร่อยที่สุดจริงๆ นะ (อวยสุดฤทธิ์) 


Apr 12, 2011

คลิป ชาวประมงไต้หวัน จับปลาแผ่นดินไหวได้

ว้าว! รัสเซียออก ปฏิทินเซ็กส์ต่อต้านคอร์รัปชั่น

Sex against corruption Love against evil



เรียกเสียงฮือฮาไปทั่วประเทศรัสเซีย หลังชาวรัสเซียในนาม กลุ่มผ้ากันเปื้อนขาว(White Aprons) ออกปฏิทินมาชุดหนึ่ง เรียกว่าชุด Sex against corruption Love against evil หรือ เซ็กส์ต่อต้านคอร์รัปชั่น ความรักต่อต้านความชั่ว หลังปัญหาการคอร์รัปชั่นกำลังระบาดหนักในสังคมประเทศรัสเซีย

แหม...จะไม่ให้ฮือฮาได้อย่างไร ก็ปฏิทินชุด Sex against corruption Love against evil เป็นการนำเอานางแบบสาว ๆ สวย ๆ และอึ๋ม ๆ มาแต่งตัวเซ็กซี่ นุ่งน้อยห่มน้อย ให้ตรงตามคอนเซ็ปของแต่ละเดือนในปฏิทิน เช่น เดือนพฤษภาคม...ไม่แต่งงานกับพวกคอร์รัปชั่น และ เดือนมิถุนายน...ชกหน้าพวกรับสินบน เป็นต้น

ทั้งนี้ กลุ่มผ้ากันเปื้อนขาว(White Aprons) ก่อตั้งโดยประชาชน และทำงานเพื่อประชาชน อีกทั้งในวันที่ 16 เมษายนนี้ ทางกลุ่มผ้ากันเปื้อนขาว ก็มีแผนระดมคน 50,000 คน ออกมาแสดงพลัง โดยทุกคนจะสวมผ้ากันเปื้อนสีขาว ซึ่งงานนี้ผู้คนจะออกมาแฉเรื่องการโกงกินของเจ้าหน้าที่ที่เคยพบมา พร้อมทั้งงัดหลักฐานเด็ดออกมาโชว์อีกด้วย

เอ้า...แบบนี้ประเทศไทยคงต้องทำบ้างแล้วล่ะ (จริงไหม) เพราะคอร์รัปชั่นบ้านเราก็หนักไม่แพ้ชาติใดในโลก อิอิ อะ ๆ แต่ปฏิทินเซ็กส์ต่อต้านคอร์รัปชั่นนี้จะโชว์หวิวขนาดไหนนั้น อยากรู้ไปดูกันเลย



Sex against corruption Love against evil

Sex against corruption Love against evi

Sex against corruption Love against evi

Sex against corruption Love against evi

Sex against corruption Love against evi

Sex against corruption Love against evi

Sex against corruption Love against evi

Sex against corruption Love against evi

Sex against corruption Love against evi

Sex against corruption Love against evi

Sex against corruption Love against evi
Sex against corruption Love against evi


Fm.Fw.mail

"เอ็กซ์-ไฟล์"ของเอฟบีไอสหรัฐฯ ฟันธง"ยูเอฟโอ-มนุษย์ต่างดาว"มีจริง

     ข้อมูล “เอ็กซ์-ไฟล์” ของหน่วยงาน “เอฟบีไอ” ยืนยันวัตถุลึกลับจากนอกโลกมีจริง เคยประสบอุบัติเหตุตกบนโลกมนุษย์ พร้อมมนุษย์ต่างดาวสูง 3 ฟุต…



สำนัก ข่าวต่างประเทศ รายงานเมื่อวันที่ 11 เม.ย. ถึงเรื่องที่หลายคนต่างให้ความสนใจและถกเถียงกันมาเป็นระยะเวลายาวนาน โดยระบุว่าข้อมูล “เอ็กซ์-ไฟล์” ของหน่วยงาน “เอฟบีไอ” อ้างว่า วัตถุลึกลับจากนอกโลกมีจริง และเคยประสบอุบัติเหตุตกบนโลกมนุษย์ช่วงปี 1950

บันทึก ลับสุดยอดดังกล่าว เผยทฤษฎีสมคบคิดว่า วัตถุจากต่างดาวเคยตกที่เมืองรอสเวลล์ ในนิวเม็กซิโก ของสหรัฐฯ ก่อนถูกส่งไปตรวจสอบต่อยังฐานทัพอากาศ “แอเรีย 51″ ทางตอนใต้ของรัฐเนวาดา ซึ่งวัตถุที่ไม่สามารถระบุที่มาได้นั้น มีรูปร่างเป็นวงกลม เส้นผ่าศูนย์กลางราว 50 ฟุต พบพร้อมร่าง 3 ร่าง สูงเพียง 3 ฟุต แต่ละรายอยู่ในภาวะหมดสติ สวมเครื่องแต่งกายจากโลหะอย่างดี เชื่อว่าเป็นมนุษย์ต่างดาว

อุบัติเหตุครั้งดังกล่าวเหมือนหลุดออกมา จากภาพยนตร์แนวไซไฟ หลังข้อมูลของ เอฟบีไอ ถูกเปิดเผยสู่สาธารณะ และมั่นใจว่าจะกระตุ้นทฤษฎีสมคบคิดเรื่องการมีอยู่จริงของมนุยต์ต่างดาว ที่ถูกปกปิดมาโดยตลอดได้ ด้าน นิก โป๊ป ผู้เชี่ยวชาญด้าน อูเอฟโอ ชาวอังกฤษ ผู้สอบสวนวัตถุลึกลับทางอาการของกระทรวงกลาโหม ระบุเมื่อคืนนี้ (10 เม.ย.) ว่า ข้อมูลดังกล่าวสามารถพิสูจน์ได้ว่า มนุษย์ต่างดาวและยานอวกาศ “มีอยู่จริง”

สำหรับการพบจานผีลึกลับพร้อมนุษยต์ต่างดาวนั้น ให้ข้อมูลโดย กาย ฮอตเทล เจ้าหน้าที่เอฟบีไอประจำวอชิงตัน และภายหลังข้อมูลถูกเปิดเผยสู่สาธารณะเมื่อ 22 ก.ค. 1947 ก่อให้เกิดกระแสต่อต้านเกลียดชังต่อเจ้าพนักงานคนดังกล่าว เขาเผยว่า ยูเอฟโอ ตกเพราะรัฐบาลติดตั้งเรดาร์พลังงานสูงในพื้นที่นั้น ส่งผลให้ก่อกวนการควบคุมของยานอวกาศ ส่วนรายชื่อของบุคคลที่มีส่วนเกี่ยวข้องในการตรวจสอบ ถูกขีดทับด้วยหมึกดำไม่สามารถระบุตัวตนได้

อย่างไรก็ดี ข้อมูล เอฟบีไอชุดดังกล่าวถูกเปิดเผยบนอินเตอร์เน็ตพร้อมกับเอกสารอีกกว่าพันฉบับ เรียกว่า “เดอะ โวลต์” ซึ่งสนับสนุนเหตุการณ์ของ ฮอตเทล 
ทั้งสิ้น และในปีเดียวกันวัตถุลึกลับยังถูกพบอีก แต่เป็นลักษณะ 6 เหลี่ยม จับภาพได้ด้วยเคเบิ้ลบนบอนลูน.

Credit : ไทยรัฐออนไลน์

Mar 29, 2011

ฮือฮา! ทีมวิจัยมะกันอ้างพบ 'แอตแลนติส'

ทีมนักวิจัยอเมริกันภายใต้การนำของศาสตราจารย์ริชาร์ด ฟรอยด์แห่งมหาวิทยาลัยฮาร์ทฟอร์ดเผยผลการศึกษาล่าสุดที่อ้างว่า   ค้นพบ "แอตแลนติส" ทวีปเก่าแก่ในตำนานที่สาบสูญไปเพราะถูกสึนามิถล่มเมื่อ 9,000 ปีก่อนคริสตกาล แล้ว โดยระบุทวีปลึกลับถูกฝังอยู่ในพื้นที่ชุ่มน้ำทางตอนใต้ของประเทศสเปน...
สำนักข่าวต่างประเทศรายงานเมื่อวันที่ 15 มี.ค. ว่า "เนชันแนล จีโอกราฟฟิก แชนเนล"  ช่องรายการสารคดีชื่อดังระดับโลกได้เผยแพร่สารคดีชุดใหม่ล่าสุดในสหรัฐฯ เมื่อวันอาทิตย์ (13) โดยสารคดีชุดดังกล่าว อ้างผลการศึกษาล่าสุดที่ระบุว่า "ทวีปแอตแลนติส" ในตำนานที่สูญหายไปหลังเกิดสึนามิครั้งใหญ่เมื่อกว่า 10,000 ปีก่อน แท้ที่จริงแล้วถูกฝังอยู่ ณ พื้นที่ชุ่มน้ำทางตอนใต้ของประเทศสเปนในปัจจุบัน



แผนที่โบราณแสดงที่ตั้งของแอตแลนติสก่อนเผชิญสึนามิ

รายงานข่าวระบุว่า สารคดีชุดดังกล่าวซึ่งใช้ชื่อว่  " Finding  Atlantis" ของเนชันแนล จีโอกราฟฟิกได้สร้างความฮือฮาครั้งใหญ่ให้กับแวดวงวิทยาศาสตร์และโบราณคดี ทั่วโลก หลังจากอ้างว่าทวีปแอตแลนติสในตำนานที่สาบสูญ ได้ถูกค้นพบอีกครั้งแล้วที่พื้นที่ชุ่มน้ำแถบชายฝั่งมหาสมุทรแอตแลนติกทาง ตอนใต้ของประเทศสเปนในปัจจุบัน  
สารคดีชุดดังกล่าวถ่ายทำโดยอ้างผลการศึกษาของ ศ.ริชาร์ด ฟรอยด์ แห่งมหาวิทยาลัยฮาร์ทฟอร์ดในมลรัฐคอนเน็คทิคัตของสหรัฐฯ ที่มีการนำเทคโนโลยีขั้นสูงเข้ามาใช้ในการศึกษา ทั้งเรดาร์สำรวจพื้นผิวระดับลึก แผนที่ดิจิตอล และภาพจากดาวเทียม  
โดยผลการศึกษาของ ศ.ฟรอยด์ อ้างว่า ได้ค้นพบที่ตั้งของทวีปแอตแลนติสอันเก่าแก่ที่หายสาบสูญไปจากพื้นโลก หลังเกิดเหตุแผ่นดินไหวและสึนามิครั้งใหญ่เมื่อ 9,000 ปีก่อนคริสตกาล โดยศาสตราจารย์ผู้นี้อ้างว่าพบซากของเมืองในทวีปเก่าแก่นี้ ถูกฝังอยู่ในบริเวณพื้นที่ชุ่มน้ำภายในอุทยานแห่งชาติโดนานญา ทางเหนือของเมืองกาดิซ เมืองท่าสำคัญทางตอนใต้ของประเทศสเปน พร้อมทั้งระบุว่า ข้อมูลหลายอย่างจากการศึกษาครั้งนี้ตรงกับข้อมูลเกี่ยวกับทวีปแอตแลนติสที่ "เพลโต" มหาปราชญ์แห่งกรีกโบราณเคยบันทึกเอาไว้เมื่อ 360 ปีก่อนคริสตกาล

"
ผมคิดว่าเราค้นพบข้อมูลที่น่าเชื่อถือที่สุดแล้ว เกี่ยวกับปริศนาการสาบสูญของทวีปแอตแลนติสอันเก่าแก่ ที่เป็นจุดกำเนิดอารยธรรมของมนุษยชาติ และการศึกษาครั้งนี้ยังทำให้เราทราบว่าคลื่นสึนามิมีอำนาจทำลายล้างมากเพียง ใด" ศ.ฟรอยด์กล่าว
ผู้เชี่ยวชาญจากมหาวิทยาลัยฮาร์ทฟอร์ดรายนี้ยังอ้างว่า พบข้อมูลสำคัญที่ระบุว่า ประชากรบางส่วนของทวีปแอตแลนติส สามารถหลบหนีการซัดถล่มของคลื่นยักษ์สึนามิไปได้ และคนกลุ่มนี้ได้ไปก่อตั้งบ้านเมืองขึ้นใหม่แถบตอนกลางของประเทศสเปนในเวลา ต่อมา
อย่างไรก็ดี สารคดีชุดดังกล่าวถูกโจมตีอย่างรุนแรงในด้านความน่าเชื่อถือ เนื่องจากเป็นการนำเสนอโดยปราศจากข้อมูลทางวิทยาศาสตร์ที่น่าเชื่อถือมารอง รับ และยังถูกกล่าวหาว่าบิดเบือนเนื้อหาที่ทีมนักวิทยาศาสตร์ชุดหนึ่งของสเปนเคย ลงพื้นที่สำรวจอุทยานแห่งชาติโดนานญา ตั้งแต่ปี ค.ศ. 2005 อีกด้วย
ด้าน ฆวน บิญาเรียส โรเบลส ผู้เชี่ยวชาญด้านมานุษยวิทยาจากหน่วยงานวิจัยทางวิทยาศาสตร์ของรัฐบาลสเปน หรือ "CSIC" ออกมาตั้งข้อสังเกตว่า ข้อมูลของ ศ.ฟรอยด์ ยังขาดความน่าเชื่อถือและดูจะมีความจงใจนำไปเชื่อมโยงกับตำนานทวีปแอตแลนติ สมากเกินไป อีกทั้งยังไม่มีข้อสรุปที่ชัดเจนว่า  ภาพถ่ายจากดาวเทียมที่ ศ.ฟรอยด์ นำไปอ้างว่าเป็นภาพของซากเมืองโบราณในทวีปแอตแลนติสนั้น จะใช่ทวีปแอตแลนติสที่สาบสูญไปจริงหรือไม่
ทั้งนี้ การศึกษาล่าสุดของ ศ.ฟรอยด์ ถือเป็นการนำเสนอทฤษฎีล่าสุดที่เกี่ยวข้องกับเรื่องราวของทวีปแอตแลนติส หลังจากก่อนหน้านี้เคยมีทีมวิจัยของสหรัฐฯ นำเสนอผลการศึกษาว่าพบทวีปแอตแลนติส บริเวณนอกชายฝั่งของไซปรัส และมีอีกหลายทฤษฎีที่อ้างว่าพบร่องรอยของทวีปดังกล่าว ตามหมู่เกาะต่างๆในทะเลเมดิเตอร์เรเนียน ทวีปอเมริกากลาง หรือแม้แต่ที่ขั้วโลกใต้มาแล้ว.

Sep 27, 2009

ฮือฮาแอปเปิ้ลฝั่งละสี แดง-เขียวในลูกเดียว

แอปเปิ้ล 2 สี

แอปเปิ้ล 2 สี

เมื่อ 24 ก.ย. เดลี่เมล์ รายงานข่าวแปลกพิสดารในอังกฤษ เมื่อพบแอปเปิ้ล 2 สี คือสีเขียวและสีแดง ในลูกเดียว โดยแบ่งข้างละสี ตรงกึ่งกลางลูกพอดิบพอดี

แอปเปิ้ลลูกดังกล่าว เป็นของนายเคน มอร์ริช ชาวอังกฤษ ที่พบในสวนของตนเอง ทีแรกนึกว่ามีใครมือบอนไปทาสีแดงอยู่ครึ่งลูก แต่เมื่อหยิบมาดูใกล้ๆ ถึงได้เห็นว่า เป็นสีจริงตามธรรมชาติ ขณะที่เพื่อนบ้านบอกเรื่องแปลกนี้ต่อๆ กันไป จนคนในหมู่บ้านแห่มาดู และถึงกับเข้าคิวขอถ่ายรูป ด้านผู้เชี่ยวชาญด้านการเพาะปลูก กล่าวว่า โอกาสที่จะมีแอปเปิ้ลที่สีแบ่งครึ่งพอดีได้แบบลูกนี้เป็นไปได้เพียง “หนึ่งในล้าน” เท่านั้น น่าจะมีสาเหตุมาจากการกลายพันธุ์ของยีน

นายมอร์ริช ซึ่งเคยเป็นช่างทาสีและช่างตกแต่งแต่ตอนนี้เกษียณแล้ว อาศัยอยู่ในเมืองโคเลตัน ราลีห์ แคว้นเดวอน กล่าวว่า จะเก็บแอปเปิ้ลลูกนี้ไว้ ไม่กิน

ขอบคุณเนื้อหาข่าวจาก ข่าวสด

Sep 6, 2009

คิดให้ดีก่อนตัดสินใจสมรสกับชาวต่างชาติ

กระทรวงการต่างประเทศ ได้รับรายงานจากสถานเอกอัครราชทูตไทยในต่างประเทศหลายแห่ง ว่าหญิงไทย ที่สมรสกับชาวต่างชาตินั้นมักจะเกิดปัญหาในหลายๆเรื่องตามมา โดยได้ขอให้ทางกระทรวงการต่างประเทศ ช่วยเหลือในปัญหาต่างๆ ยกตัวอย่างเช่น การสมรสอำพรางกับชาวต่างชาติเพื่ออำพรางไปทำงานยังต่างประเทศ แต่สุดท้ายก็ถูกจับได้ และถูกดำเนินคดีตามกฎหมาย หรือแม้แต่ การสมรสด้วยความรัก เมื่อฝ่ายหญิงย้ายไปอยู่กินกับสามีในต่างประเทศ ต้องมีการปรับตัวอย่างมากทั้งภาษา วัฒนธรรมรวมถึงสภาพแวดล้อมต่างๆ เพื่อให้เข้ากับการดำเนินชีวิตประจำวัน บางครั้งก็เกิดความเครียด ทำให้เกิดปัญหากับสามีต่างชาติจนมีปากเสียงจนถึงขั้นทำร้ายร่างกาย และอาจลงท้ายด้วยการหย่าร้างในที่สุด หรือเมื่อกำเนิดบุตรสามีต่างชาติบางรายต้องการแค่ลูกแต่ไม่ต้องการภรรยา บ่อยครั้งมีการหย่าร้างโดยหญิงไทยไม่สามารถเรียกร้องใดๆจากสามีชาวต่างชาติได้ บางรายชาวต่างชาติไม่ยินยอมให้ลูกอยู่กับแม่โดยการลักลอบพาลูกหนีไปจากบ้าน และไปอยู่ที่อื่น โดยหญิงไทยที่เป็นแม่ไม่สามารถตามหาพบ จึงเข้าขอความช่วยเหลือจากหน่วยงานกระทรวงการต่างประเทศ เพื่อให้ติดตามหาบุตรของตน หญิงไทยบางรายที่แต่งงานกับชาวต่างชาติอยู่กินจดทะเบียนเป็นสามี ภรรยา เมื่อหญิงไทยเกิดตั้งท้องและได้กำเนิดบุตร แต่สามีชาวต่างชาติไม่ยอมรับว่าเป็นพ่อเด็ก เพราะหญิงไทยกับชาวต่างชาติที่แต่งงานกันเกิดปัญหาระหองระแหงและไม่ได้อยู่ด้วยกันตลอดเวลา ดังนั้นสามีชาวต่างชาติจึงไม่เชื่อว่าเด็กที่เกิดมานั้นเป็นลูกตัวเองจริงหรือไม่จึงเกิดปัญหาหย่าร้างและฟ้องร้อง กันเกิดขึ้น

กองคุ้มครองและดูแลผลประโยชน์คนไทยในต่างประเทศ กรมการกงสุล กระทรวงการต่างประเทศ จึงขอประชาสัมพันธ์เตือนหญิงไทยที่คิดจะสมรสอำพรางกับชาวต่างชาติเพื่อไปทำงานนั้น เมื่อถูกจับได้จะถูกดำเนินคดีตามกฎหมาย และจำคุก หรือ หญิงไทยที่คิดจะสมรสกับชาวต่างชาติ ควรศึกษารายละเอียดต่าง ๆ รวมทั้งเรียนรู้ซึ่งกันและกันให้มากก่อนที่จะตัดสินใจแต่งงานหรือย้ายไปอยู่กับสามีชาวต่างชาติ เพื่อไม่ให้เกิดปัญหาตามมา ควรคิดให้รอบคอบก่อนที่จะตัดสินใจสมรสกับชาวต่างชาติ

FW. Mails

Aug 14, 2009

พลาสติกเพิ่มฮอร์โมนหญิง





การดื่มน้ำจากขวดพลาสติกจะเป็นการเพิ่มระดับฮอร์โมนเอสโตรเจน หรือฮอร์โมนเพศหญิง โดยไม่รู้ตัว

ในบรรจุภัณฑ์พลาสติกทุกชนิด รวมทั้งขวดนมทารก มีสาร "บิสฟี นอล เอ (BPA)" และเป็นการเสี่ยงอย่างยิ่งถ้าดื่มน้ำจากขวดพลาสติก จากการศึกษาของผศ.แคริน บี มิตเชล จากมหาวิทยาลัยฮาร์เวิร์ด สหรัฐอเมริกา พบว่า อาสาสมัคร 77 คน ที่ดื่มน้ำเย็นจากขวดโพลีคาร์บอเนต 1 อาทิตย์ มีปริมาณสารบีพีเอในปัสสาวะเพิ่มขึ้นถึง 69% ซึ่งบีพีเอเป็นสารที่คล้ายกับฮอร์โมนเพศหญิง โดยก่อนหน้าการทดลอง อาสาสมัครทั้งหมดได้รับการทำความสะอาดภายในร่างกายด้วยการให้ดื่มน้ำจากขวดสเตนเลสแล้ว เพื่อลดปริมาณบีพีเอให้น้อยที่สุด

ผศ.มิตเชล กล่าวว่า "การดื่มน้ำที่มีปริมาณบีพีเอสูง เกี่ยวโยงกับความพิการของทารก เพิ่มความเสี่ยงในการเป็นโรคหัวใจ เบาหวาน โดยเฉพาะอย่างยิ่ง การอุ่นขวดนมร้อนๆ จะเป็นการเพิ่มสารบีพีเอที่เป็นอันตรายต่อทารก"

ที่มา ข่าวสด




Sep 20, 2008

สยองลัทธิอุบาทว์กินคน !แทงเหยื่อวัยรุ่น 666 แผล ต้มร่าง-กินซุปมนุษย์


เป็นเรื่องเล่าสืบมาแต่โบราณของชาวคริสต์ เหมือน
อย่างเรื่องชาดกของชาวพุทธเราเล่ากันว่า รหัสของ
ซาตานคือ 666

ตอนนี้มีการตีความว่าคือ.....
รหัส 666 มีการตีความว่าคือ COMPUTER ลองเรียง
ลำดับตัวอักษรโดยให้ A เป็น 1 B เป็น 2 C เป็น 3
แบบนี้ไปเรื่อยๆ เอา 6 คูณ แล้วนำมาบวกกันจะได้
ค่าเท่ากับ 666 พอดี

C=3x6 = 18

O=15x6=90

M=13x6=78

P=16x6=96

U=21x6=126

T=20x6=120

E=5x6= 30

R=18x6=108

---------------

รวมได้เท่ากับ 666

แปลว่า COMPUTER ก็คือเครื่องมือของซาตาน
ชนิดหนึ่ง ที่ทำให้มนุษย์ตกเป็นทาสของมัน
ท่านคิดว่ามีเค้าความจริงบ้างมั๊ยเอ่ย ???


อ้างอิง http://www.vcharkarn.com/include/
vcafe/showkratoo.php?Pid=53301


หนี่งในเหยื่อถูกกลุ่มสาวกอุบาทว์
หนี่งในเหยื่อถูกกลุ่มสาวกอุบาทว์

สยอง!สาวกลัทธิอุบาทว์สังหารเหยื่อวัยรุ่นหญิ
และชายตายอนาถ แทงร่างพรุน 666 ครั้งตาม
ความเชื่อตัวเลขซาตาน ก่อนจะต้มกินเนื้อ ด้าน
ตำรวจยังไม่สามารถจับกลุ่มได้


สำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่า เหตุสยองครั้งนี้เกิด
ขึ้นที่เมืองยารอสสลาฟ ห่างจากกรุงมอสโกไปทาง
ตะวันออกเฉียงเหนือราว 300 ไมล์ โดยสาวกลัทธิ
ซาตานได้ฆาตกรรมเหยื่อวัยรุ่นเป็น 3 เป็นจำนวน 4
ราย โดยแต่ละรายถูกแทงเป็นจำนวน 666 ที
ก่อนจะถูกนำมาต้มร่างและกินเนื้อ โดยจำนวน
ที่ถูกแทงถือว่าตรงตามความเชื่อตัวเลขของ
ซาตาน
โดยกลุ่มได้บังคับให้วัยรุ่นเหล่านี้ดื่มเหล้า
ก่อนจะสังหารปลิดชีพ

รายงานระบุว่า สาวกสมาชิกลัทธิอุบาทว์ได้จุ
ไฟใต้ต้นไม้ ก่อนจะนำร่างพวกเขามาปรุงและ
กินอวัยวะส่วนต่าง ๆ
โดยตำรวจได้พบซากร่าง
ของเหยื่อทั้งสี่เมื่อเดือนที่แล้ว หลังหายไปเมื่อเดือนมิ.ย.


ขอขอบคุณเนื้อหาข่าว คุณภาพดี โดย:

Jun 20, 2008

พิสูจน์สาวตาเอกซเรย์ มองทะลุคน-เก่งกว่าหมอ



น.ส.นาตัลยา นิโคลาเยฟน่า เดมคินา หรือ "นาตาชา" ชาวรัสเซีย
ได้ชื่อว่าเป็น "สาวตาเอกซเรย์" เธอเกิดที่เมืองซารานสค์เมื่อ
พ.ศ.2530 ปัจจุบันอายุ 21 ปี และอ้างว่ามีตาเอกซเรย์มองเห็น
อวัยวะภายในของบุคคลอื่นๆ ตั้งแต่อายุ 10 ขวบ

"ฉันมองได้ 2 ลักษณะ ตาสามารถสวิตช์ไปมาได้ ไม่ทราบเหมือน
กันว่ามันเกิดขึ้นได้อย่างไร การสวิตช์นั้นไม่ยาก เพียงแค่นึกขึ้นมา
เท่านั้น ฉันก็จะเห็นอวัยวะภายในทั้งหมดของคน ยากเหมือนกันนะ
ที่จะอธิบายว่า คนๆ นั้นป่วยเป็นโรคอะไรอยู่ อวัยวะที่มีปัญหาคล้าย
จะมีรังสีออกมา" นาตาชากล่าว

ความสามารถของนาตาชามีขึ้นในวันหนึ่งขณะที่เธออยู่บ้านกับ
นางทัตยาน่า วลาดิมอฟน่า มารดา ทันใดนั้นก็มองเห็นอวัยวะ
ภายในของมารดา และอธิบายว่า อวัยวะภายในนั้นเป็นอย่างไร
สำหรับภาพที่เธอเห็นนั้นเป็นภาพสี และเริ่มทำการวิเคราะห์เมื่อ
เปรียบเทียบอวัยวะภายในของคนหลายๆ คน

ต่อมาเธอก็ดูอวัยวะภายในของญาติ คนรู้จัก นางทัตยาน่ากล่าว
ว่า ตอนแรกเธอไม่กล้าบอกเรื่องความสามารถของลูกสาวกับใคร
แต่ผู้คนก็มาที่บ้านเธอเรื่อยๆ ครั้งหนึ่งหญิงคนหนึ่งมาหานาตาชา
บอกว่าเธอมีลูกยาก แม้จะใช้เวลารอคอยมาหลายปีแล้ว นาตาชา
รับปากที่จะช่วยเหลือ จากนั้นไม่นาน หญิงคนนี้ก็คลอดบุตรชาย
แต่เธอกลับไม่เชิญนาตาชาแม้แต่จะไปเยี่ยมทารกนี้

จากนั้นจนชื่อเสียงของเธอเข้าหูสื่อมวลชน ทั้งของรัสเซียเองและ
ต่างชาติ อย่างไรก็ตาม เธอไม่สามารถมองเห็นอวัยวะภายในของ
ตัวเอง และการมองอวัยวะภายในของผู้อื่นทำได้ในช่วงกลางวัน
เท่านั้น

ด้านนายนิโคไล เดมคินา บิดาของนาตาชา กล่าวว่า "เราซ่อนความ
สามารถพิเศษของนาตาชาไว้นานมาก แต่ความสามารถนี้กลายเป็น
ความสนใจของสาธารณชนไปแล้ว บ้านเรามีผู้สื่อข่าวมาหาเป็นจำนวน
มาก หนังสือพิมพ์รัสเซียเขียนถึงนาตาชา และบ่อยครั้งที่ข้อความใน
หนังสือพิมพ์ทำให้เรารู้สึกเสียใจ"



จากรายงานของสื่อมวลชน นาตาชาระบุว่า บุคคลที่เธอมองเห็น
อวัยวะภายในนั้นกำลังป่วยเป็นโรคอะไร ได้ถูกต้องแม่นยำกว่า
แพทย์ที่มีอุปกรณ์ทางการแพทย์เข้ามาช่วยเหลือ จากนั้นหนัง
สือพิมพ์เดอะซันของอังกฤษ เชิญนาตาชากับมารดาไปกรุงลอน
ดอน พร้อมเข้ารับการทดสอบตาหน้ากล้องโทรทัศน์

ผลที่ได้ปรากฏว่า เธอสามารถมองออกว่า ไบรโอนี่ วาร์ดเดน ผู้สื่อ
ข่าวของเดอะซัน บาดเจ็บที่อวัยวะภายในจากอุบัติเหตุรถยนต์
แต่บ่ายเบียงที่จะตอบว่า มีอวัยวะใดที่หักบ้าง

จนช่องดิสคัฟเวอรี่ สนใจปรากฏการณ์ที่เกิดขึ้นกับนาตาชา จึง
เชิญเธอมารับการทดสอบที่สหรัฐ โดยคณะที่เตรียมการทดสอบ
คือ คณะกรรมาธิการทดสอบทางวิทยาศาสตร์ถึงปรากฏการณ์ที่
อ้างว่าเหนือธรรมชาติ (CSICOP) และคณะกรรมาธิการวิทยาศาสตร
์การแพทย์และสุขภาพจิต (CSMMH) ส่วนผู้ที่ทำการทดสอบคือ
ศ.ดร.เรย์ ไฮแมน จากมหาวิทยาลัยโอเรกอน ศ.ดร.ริชาร์ด ไวส์แมน ผู้เชี่ยวชาญด้านจิตวิทยาจากมหาวิทยาลัยเฮิร์ตฟอร์ดไชร์ นาย
แอนดรูว์ สคอลนิก บรรณาธิการวารสารของสมาคมแพทย์อเมริกัน

การทดลองมีอยู่ว่า เธอต้องมองอวัยวะภายในของคน 7 คน โดย
6 คนในนั้น มีความผิดปกติของอวัยวะภายในเรียงดังนี้คือ ถูกผ่าตัด
ไส้ติ่งออกไปแล้ว ถูกผ่าตัดที่ด้านล่างของหลอดอาหาร มีแม็กที่ใช้ในทางการแพทย์ติดอยู่ที่หน้าอกเนื่องจากการผ่าตัดหัวใจ
มีผู้ใส่ข้อต่อสะโพกเทียม มีผู้ถูกตัดปอดด้านบนของปอดซ้ายออก มีผู้ที่ต้องใส่โลหะที่กะโหลกเนื่องจากเข้ารับการผ่าตัดเนื้องอกในสมอง
ส่วนบุคคลที่ 7 มีสุขภาพแข็งแรง ไม่มีความผิดปกติใดๆ

หลักการตัดสินคือ นาตาชาจะต้องบอกว่า ใครมีอวัยวะภายในที่ผิด
ปกติให้ถูกต้องอย่างน้อย 5 ใน 7 คน ถึงจะตัดสินได้ว่า ความสามารถของเธอน่าจะทำการทดสอบทางการแพทย์ต่อไป

อย่างไรก็ตาม ปรากฏว่า นาตาชาตอบถูกเพียง 4 ใน 7 เท่านั้น แม้ว่า
นางทัตยาน่า มารดา จะกล่าวกับใครต่อใครว่า ลูกสาวไม่เคยทายผิดเลย

ศ.ดร.ไวส์แมน มีความเห็นว่า "ขณะทำการทดสอบ ความรู้สึกประทับใจที่มีต่อนาตาชาของผู้ชมและคณะกรรมาธิการนั้น
แตกต่างกัน นาตาชาใช้เวลานานถึง 4 ชั่วโมงกว่าจะตอบได้ และ
หลายครั้งเธอตอบผิด ผมคิดว่า ผู้ชมคงลุกออกไปแล้ว แต่ที่ไหน
ได้ ผู้ชมกลับเชื่อเธอ ผมคิดว่า ความเชื่อของผู้ชมที่มีต่อนาตาชาคง
เหมือนกับความเชื่อที่มีต่อหมอดู ซึ่งผู้ชมให้ความสนใจคำพูดของ
นาตาชาในส่วนที่ผู้ชมเชื่อเท่านั้น"

ด้านนาตาชาแย้งผลของคณะกรรมาธิการที่ทำการตรวจสอบว่า ความสามารถของเธอนั้นไม่เพียงพอที่จะเข้ารับการศึกษาทาง
วิทยาศาสตร์ต่อไป เธอกล่าวว่า สภาพและสิ่งแวดล้อมขณะทำ
การตรวจสอบนั้น ไม่เหมาะที่เธอจะทำการทดสอบ เช่น เธอไม่
เคยเอกซเรย์คนมากเท่านี้มาก่อน

ส่วนคณะกรรมาธิการระบุว่า การทดลองนี้มีข้อบกพร่องหลายข้อ
เช่น นาตาชามาถึงสถานที่ทำการทดสอบก่อนเวลาที่นัดหมายไว้
ทำให้เธอพบอาสาสมัคร 2 คนก่อนเวลา ทั้งๆ ที่เธอไม่ควรพบกับ
อาสาสมัครก่อนหน้านั้นเลย

ดังนั้น เมื่อเธอได้รับเชิญจาก ศ.โยชิโอะ มาชิ ให้ไปเข้ารับการทด
สอบที่มหาวิทยาลัยโตเกียวอีเล็กทริกคัลประเทศญี่ปุ่นเธอจึงออก
กฎว่า ต้องให้อาสาสมัครที่เข้ามารับการทดสอบนำใบรับรองแพทย์
ที่ระบุถึงอาการผิดปกติภายในมาด้วย อาสาสมัครยังต้องระบุว่า มี
ความปกติตรงส่วนใดของร่างกาย เช่น ช่องท้อง ศีรษะ เธอต้องใช้
เวลานานจนกว่าจะพอใจเพื่อจะระบุความผิดปกติ

จากเว็บไซต์ของนาตาชา ระบุว่า เธอเห็นข้อเข่าเทียมของอาสา
สมัคร เห็นอาสาสมัครกำลังตั้งครรภ์อ่อนๆ เธอยังทายถูกว่า สุนัข
ตัวหนึ่งใส่อุปกรณ์การแพทย์ไว้ที่ขาหลังด้านขวา อย่างไรก็ตาม ทางมหาวิทยาลัยญี่ปุ่นไม่เปิดเผยรายละเอียดของการทดลองให้
บุคคลภายนอกทราบ

ด้านนายแพทย์ไบรอัน โจเซฟสัน ผู้อำนวยการโครงการ
Mind-Matter Unification มหาวิทยาลัยเคมบริดจ์ ประเทศอังกฤษ
และเคยได้รับรางวัลโนเบลสาขาฟิสิกส์ มีความเห็นถึงการทดสอบ
ของคณะกรรมมาธิการทดสอบทางวิทยาศาสตร์ถึงปรากฏการณ์
ที่อ้างว่าเหนือธรรมชาติ และคณะกรรมาธิการวิทยาศาสตร์การ
แพทย์และสุขภาพจิตว่า "มีความพยายามที่จะดิสเครดิตความ
สามารถของนาตาชา และผลที่ได้ควรจะระบุว่า ไม่สามารถระบุ
ได้ เนื่องจากการที่นาตาชาระบุอาการได้ถูกต้อง 4 ใน 7 คน นับ
ว่าตอบถูกถึงกว่าครึ่ง ซึ่งเป็นสถิติที่น่าสนใจ"

ความสามารถของนาตาชา สาวน้อยจากรัสเซีย จึงยังเป็นที่ถกเถียง
กันในชุมชนวิทยาศาสตร์ว่า สายตาเอกซเรย์นั้นมีอยู่จริงหรือ ปัจจุบัน
นาตาชาเรียนอยู่คณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยซีมาชโค สเตต
สตอมมาโทโลจิคัล กรุงมอสโก และทำงานอยู่ที่ศูนย์รักษาพิเศษ
นาตัลยา เดมคินา (TSSD) ซึ่งศูนย์นี้จะระบุโรคและรักษาผู้ป่วยด้วย
ความร่วมมือจาก "ผู้เชี่ยวชาญที่มีความสามารถพิเศษเหนือธรรมชาติ
รวมทั้งผู้เชี่ยวชาญการแพทย์แผนโบราณ"


ข้อมูลจาก

ฮือฮาปาฏิหาริย์ เต่ายักษ์ช่วยชีวิต



เมื่อเวลา 15.30 น. วันที่ 17 มิ.ย. ผู้สื่อข่าวเดินทางไปที่
บ้านเลขที่ 16/5 หมู่ 4 ต.บางจาก อ.เมืองนครศรีธรรมราช
ซึ่งเป็นบ้านครึ่งปูนครึ่งไม้ ปลูกอยู่ริมคลองบางจาก เนื่อง
จากได้รับแจ้งว่า นายสมหวัง อาดัม อายุ 33 ปี ชาวประมง
เจ้าของบ้าน พบเต่าตนุขนาด ใหญ่ยักษ์ ซึ่งนายสมหวังได้
นำไปดูเต่าตนุที่นำไปไว้ในอ่างปลาข้างบ้าน เป็นเต่าตนุเพศ
เมียสีดำขนาดใหญ่ยักษ์ มีความยาวจากหัวถึงหาง 1.28
เมตร ความกว้างของกระดอง 1.12 เมตร นำหนัก 208 กิโลกรัม

นายสมหวังกล่าวถึงที่มาของเต่ายักษ์ว่า ตนมีอาชีพ ทำประมงพื้นบ้าน
โดยวางอวนขนาดเล็กในย่านปากน้ำปากพนัง อ.ปากพนัง พื้นที่รอยต่อ
ต.บางจาก อ.เมืองนครศรีธรรมราช เมื่อราว 3 ทุ่มเศษวันที่ 16 มิ.ย.ที่ผ่าน
มา ได้ขับเรือหางยาวไปวางอวนตามปกติ จนกระทั่งเวลา 00.30 น.
วันที่ 17 มิ.ย. วางอวนเสร็จสิ้น จึงขับเรือกลับบ้าน ตั้งใจว่าจะไปเก็บอวน
ในช่วงสายวันนี้ ปรากฏว่าพอขับเรือมาถึงปากอ่าวบ้านบางปรง ซึ่งเป็น
ปากอ่าวเล็กด้านในถัดมาจากปากอ่าวปากพนัง อยู่ระหว่างหมู่ 12 ต.
คลองน้อย อ.ปากพนัง กับหมู่ 7 ต.บางจาก อ.เมืองนครศรีธรรมราช
จู่ๆเครื่องยนต์เรือเกิดดับไปดื้อๆ พยายามติดเครื่องอยู่นานนับชั่วโมง
แต่ไม่เป็นผล แถมเรือยังถูกคลื่นลมแรงพัดออกทะเลเรื่อยๆ แม้จะใช้ไม้พายพายเรือกลับเข้าคลองบางจากอย่างสุดกำลัง แต่ไม่
อาจต้านทานคลื่นลมได้ เรือก็ลอยห่างจากฝั�งไปอย่างต่อเนื่อง

หนุ่มชาวประมงกล่าวต่อว่า ช่วงนั้นตนรู้สึกอับจนไม่มีปัญญานำเรือ
กลับบ้านได้ จึงอธิษฐานในใจขอให้สิ่งศักดิ์สิทธิ์บันดาลให้คลื่นลม
สงบ และขอให้ช่วยให้กลับบ้านได้ หลังจากนั้นครู่เดียวคลื่นลมก็สงบ
ลงอย่างปาฏิหาริย์ ทำให้ขนลุกซู่ไปทั้งตัว ยิ่งไปกว่านั้น จู่ๆเรือของ
ตนก็เคลื่อนตัวทวนทิศทางคลื่นลมอย่างช้าๆ กลับเข้าคลองบางจาก
ได้ทั้งที่ไม่ได้ใช้พายพายเรือแม้แต่น้อย ทำให้ตกใจจนขนหัวลุก
คิดในใจว่าอาจมีวิญญาณ หรือสิ่งศักดิ์สิทธิ์ช่วยพาเรือของตนกลับ
บ้านตามคำอธิษฐาน

นายสมหวังเจ้าของบ้านกล่าวต่อว่า กระทั่ง 6โมงเช้า เรือเคลื่อน
ตัวมาถึงริมตลิ่งหน้าบ้านแล้วหยุดลง จึงรีบกระโดดขึ้นตลิ่งทันที จากนั้นได้มองไปที่เรือเห็นเต่าตัวใหญ่ว่ายน้ำออกมาจากใต้ท้อง
เรือ แล้วค่อยๆเดินต้วมเตี้ยมขึ้นมาบนตลิ่ง ทำให้แน่ใจว่าเต่าตัวนี้
ดันเรือของตนจากปากน้ำปากพนังมาถึงบ้าน ระยะทางเกือบ 20
กม. แต่ยังรู้สึกแปลกใจว่าเต่ารู้ได้อย่างไรว่ามาถึงบ้าน ตนแล้ว
ถึงได้หยุดดันเรือแล้วเดินขึ้นมาบนตลิ่ง ตนและเพื่อนบ้านที่ทราบ
ข่าวเชื่อว่าเต่าตัวนี้เป็นเต่าเจ้าที่ หรือเป็นพญาเต่า จึงนำเรื่องไป
เล่าให้ผู้ใหญ่บ้านฟัง แจ้งนายไกรลาศ แก้วดี นายอำเภอเมือง
นครศรีธรรมราช ประสานประมงอำเภอปากพนัง มาตรวจสอบ

ระหว่างนั้นนายไกรลาด แก้วดี นายอำเภอเมืองนครศรีธรรมราช
นายอุทร สิทธิศักดิ์ ประมงอำเภอปากพนัง และนักวิชาการจาก
ศูนย์พัฒนาประมงพื้นที่ โครงการพัฒนาลุ่มน้ำปากพนังอันเนื่อง
มาจากพระราชดำริ เดินทางเข้ามาที่บ้านของนายสมหวัง และ
เข้าตรวจเต่าดังกล่าวอย่างละเอียดถี่ถ้วน

จากนั้นนายอุทร สิทธิศักดิ์ ประมงอำเภอปากพนัง เปิดเผยว่า
เต่าตนุตัวนี้ เป็นเพศเมีย อายุไม่ต่ำกว่า 100 ปี ตามลำตัวไม่พบ
หลักฐานการทำเครื่องหมายหรือการฝังชิปใดๆ ยืนยันว่าเป็นเต่า
ตนุที่มีขนาดใหญ่ที่สุดเท่าที่ เคยพบมาในภูมิภาคนี้ และนายสม
หวังยินยอมให้นำเต่าไปพักพื้นที่ศูนย์พัฒนาประมง
พื้นที่ฯ เพื่อฟื้นฟูให้มีความสมบูรณ์แข็งแรง เนื่องจากเต่ามีอาการ
อ่อนเพลีย โดยจะนำไปพักฟื้นในบ่ออนุบาล ให้ออกซิเจน ให้
อาหาร คาดว่า จะให้พักฟื้นราว 1 เดือน หลังจากแข็งแรงดีแล้ว
ก็จะปล่อยคืนสู่ธรรมชาติในท้องทะเลลึกต่อไป ส่วนสาเหตุที่เต่า
เข้ามาในพื้นที่ชายฝั่งทะเลนั้น คาดว่าเต่าอาจออกมาหาอาหาร
เพลินแล้วหลงทาง กระทั่งมาเจอกับเรือของนายสมหวังดังกล่าว

ข้อมูลจาก

May 23, 2008

ฮือพบบ่อน้ำพุร้อนกรุงเก่าต้มไข่10นาทีสุก





ชาวบ้านเมืองกรุงเก่าฮือฮาแห่กันนำไข่ไปต้มในหลุมน้ำพุร้อน
พบอยู่ใกล้กับหมู่บ้านญี่ปุ่น ส่งกลิ่นกำมะถันคลุ้งไปทั่ว เชื่อเป็นเพราะเหตุการณ์แผ่นดินไหวอาจทำให้ใต้แผ่นดินเปลี่ยน
แปลง วอนให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้ามาตรวจสอบ

เมื่อเวลา 17.00 น.วันที่ 18 พ.ค. ผู้สื่อข่าวได้รับแจ้งจาก
ประชาชนที่อยู่บริเวณชุมชน ม.7 ต.เกาะเรียน อ.พระนคร
ศรีอยุธยา จ.พระนครศรีอยุธยา ว่า พบน้ำร้อนอยู่ในบ่อน้ำ
ใกล้กับร้านขายของชำ ริมถนนสายอยุธยา-บางปะอินสาย
ใน เลยวัดพนัญเชิงวรวิหาร ไปประมาณ 500 เมตร ก่อน
ถึงหมู่บ้านญี่ปุ่น จึงได้เดินทางไปพิสูจน์ข้อเท็จจริง

พบว่าบริเวณริมถนนมุ่งหน้าไป อ.บางปะอิน เป็นร้านขาย
ของชำ เลขที่ 1/9 ม. 7 ต.เกาะเรียน อ.พระนครศรีอยุธยา
ปลูกเป็นบ้านหลังเล็กๆ ยกพื้นสูง อยู่ห่างจากถนนประมาณ
5 เมตร ที่พื้นด้านล่างใกล้กับเสาไฟฟ้ามีหญ้าขึ้นรก และยัง
มีรางน้ำไหลผ่าน ห่างจากลำลางน้ำประมาณ 1 เมตรเข้า
ไปทางใต้ถุน เป็นหลุมน้ำเล็กๆเดือดปุดๆขึ้นมา มีควัน
และกลิ่นกำมะถันคลุ้งไปประชาชนที่อยู่บริเวณนั้นจึงได้
ทดลองนำไข่ไก่ลงไปวางปรากฎว่าไข่สุกในเวลาประมาณ
7-10 นาทีเท่านั้น




นายไพรวัลย์ ธรรมพร อายุ 44 ปี เจ้าของร้านขายของ
ชำ ได้ลงไปขุดให้บ่อน้ำดังกล่าวกว้างเส้นผ่าศูนย์กลาง
ประมาณ 20 ซ.ม. ลึกประมาณ 1 ฟุตเศษ ปรากฎว่า
มีควันคลุ้งออกมามากกว่าเดิม และมีกลิ่นเหม็นฉุน
เหมือนกำมะถัน และเมื่อนำไข่ลงไปต้มอีก ก็ปรากฎว่า
ไข่ที่ต้มสุกทุกฟองอย่างรวดเร็ว

นายไพรวัลย์ เปิดเผยว่า ก่อนหน้านี้เมื่อช่วงบ่ายวัน
เดียวกัน ขณะที่ตนและลูกสาว กำลังนั่งเล่นอยู่ที่ระเบียง
บ้าน ก็มองลงไปเห็นมีตาน้ำผุดขึ้นมา และมีควันขึ้น
จึงได้ลงไปดู เอามือแตะๆก็พบว่ามีความร้อนจึงได้
ลองเอาไข่วาง ปรากฎว่าไข่สุกในเวลา 7-10 นาที
จึงได้ขุดให้กว้างขึ้นอีก แล้วลองต้มอีก ปรากฎว่าไข่
ก็สุกอย่างรวดเร็ว ตนได้ให้เจ้าหน้าที่ของการไฟฟ้ามา
ดูว่าเกิดจากกระแสไฟฟ้ารั่วหรือไม่ เนื่องจากมีเสาไฟฟ้า
อยู่ แต่ทางเจ้าหน้าที่ไฟฟ้าก็ยืนยันว่าไม่มีกระแสไฟฟ้า
รั่วแต่อย่างใด เนื่องจากลำรางน้ำที่อยู่ใกล้ก็ไม่ได้รับ
ผลอะไร ปลายังสามารถว่ายน้ำได้ด้วย ซึ่งร้านของตน
ปลูกมากว่า 20 ปีแล้วยังไม่เคยเกิดปรากฎการณ์เช่น
นี้มาก่อน

นายสำเริง อดิศะ อายุ 48 ปี ประชาชนที่เดินทางมาดู
เปิดเผยว่า เชื่อว่าน่าจะเป็นน้ำพุร้อน และเกิดจากสาเหตุ
ของแผ่นดินไหวเกี่ยวกับรอยเลื่อนของเปลือกโลกที่ทำ
ให้เกิดการเปลี่ยนแปลงของใต้พื้นโลก อยากให้เจ้าหน้า
ที่หรือนักวิชาการมาดู หากเป็นน้ำพุร้อนจริงจะได้เป็น
แหล่งท่องเที่ยวแห่งใหม่

May 22, 2008

งานนกประดิษฐ์’ สำลีย้อมสีรายได้สวย







“ช่องทางทำกิน” วันนี้ทางทีมงานนำข้อมูลงานหัตถกรรม “นก
ประดิษฐ์จากสำลี” ชิ้นงานสวย ๆ มานำเสนอ ซึ่งเมื่อประดิษฐ์เป็น
นกแล้วก็สร้างสรรค์ต่อยอดเป็นชิ้นงานต่าง ๆ ได้หลากหลายน่าสน
ใจ...

น้อย-กตภรณ์ พิบูลธรรมนนท์ เจ้าของ “งานประดิษฐ์นกจากสำลี”
เล่าว่า งานตัวนี้ทำเป็นอาชีพเสริมหารายได้เพิ่มเสริมจากอาชีพ
หลักที่ทำงานเป็นลูกจ้างชั่วคราวอยู่ที่สำนักพัฒนาอุตสาหกรรมใน
ครอบครัวและหัตถกรรมเหตุที่หันมาทำงานประดิษฐ์เป็นอาชีพเสริม
นั้นเริ่มมาจากการที่ช่วงก่อนหน้านี้มีภาระที่ต้องใช้เงินส่งลูกเรียน
เงินเดือนที่ได้ประจำอยู่ก็ไม่มากพอ จึงคิดทำอาชีพเสริม

“เรียนจบมาทางด้านศิลปะ จึงมีความคิดที่จะทำงานศิลปะ งาน
ประดิษฐ์เป็นอาชีพเสริม เพราะพอจะมีความรู้อยู่บ้าง เริ่มจากทำ
ดอกไม้กระดาษสา ก็ได้รับความนิยมจากนั้นก็เริ่มมีความคิดที่
จะหาสิ่งของมาทำการตกแต่งสินค้าเพื่อเป็นการเพิ่มมูลค่า จึงได้ไปซื้อนกประดิษฐ์ตามร้านมาตกแต่งกับดอกไม้เพิ่ม แต่
พอสั่งซื้อเป็นจำนวน มาก ๆ ก็มักจะมีปัญหาติดขัด จึงมีความ
คิดที่จะทำขึ้นเอง โดยใช้ความรู้ความสามารถที่มีอยู่”

เริ่มแรกเจ้าตัวก็นำนกประดิษฐ์ที่ซื้อมาแกะดูเป็นแบบ จาก
นั้นก็เริ่มศึกษาการทำเอง รวมทั้งไปเรียนเพิ่มเติมด้วย พอทำได้ก็ทำออกมาจำหน่ายโดยการประดิษฐ์ตกแต่งเป็น
ชิ้นงานต่าง ๆ เช่นทำเป็น โมบาย รูปแบบต่าง ๆ รวมทั้งสินค้า
อื่นๆ โดยมี มนัส คงรอด เป็นหุ้นส่วนและเป็นคนออกแบบ
ผลิตภัณฑ์ให้

วัสดุอุปกรณ์ที่ใช้ในการทำนกประดิษฐ์นั้น มีดังนี้... โฟม
หนาประมาณ 1.5 นิ้วขึ้นไป, กาวลาเท็กซ์, พู่กัน, สำลี, สี,
คัตเตอร์, กระดาษทราย เป็นต้น



“โฟมที่นำมาทำอาจใช้โฟมที่ติดมาจากลังใส่เครื่อง
ใช้ไฟฟ้าก็ได้ เพื่อประหยัดต้นทุน กาวลาเท็กซ์นั้น
จะต้องผสมน้ำ โดยทำเป็นชนิดข้น กับชนิดเจือจาง
โดยชนิดข้นนั้นจะผสมกาว 3 ส่วน ต่อน้ำ 1 ส่วน ชนิด
เจือจาง ผสมกาว 1 ส่วน ต่อน้ำ 3 ส่วน”

เจ้าของผลงานบอกอีกว่า สำหรับสีที่ใช้ย้อมสำลี จะใช้
สีผสมอาหารหรือสีอะไรก็ได้ แต่ที่ทำอยู่จะใช้ สีบาติก
เพราะได้สีที่สวยสดใส โดยการผสมสีสำหรับทำการย้อม
นั้น มีเทคนิคเล็กน้อยคือ การผสมสีนั้นต้องใช้น้ำร้อน
และใส่เกลือผสมลงไปด้วย ที่ต้องผสมเกลือลงไปในสี
ก็เพื่อให้สีจับกับสำลีได้ทนนาน และเมื่อย้อมเสร็จควรนำ
ไปตากให้แห้งเพื่อป้องกันเชื้อรา

ขั้นตอนการทำ กตภรณ์บอกว่าเริ่มจาก...วาดแบบนกที่
ต้องการทำลงบนกระดาษเพื่อเป็นแบบ จากนั้นนำไปทาบ
กับโฟมแล้วตัดโฟมให้ได้ตามแบบ ให้ได้รูปทรงสัดส่วน
ตามที่ต้องการ หลังจากนั้นตกแต่งลบเหลี่ยมมุมให้เรียบ
ร้อย แล้วใช้กระดาษทรายละเอียดขัดให้ผิวโฟมเรียบ

เมื่อได้รูปร่างตัวนกตามที่ต้องการ จากนั้นก็มาถึงขั้นตอน
การทำขน โดยนำสำลีที่ทำการย้อมสีตามต้องการเตรียม
ไว้แล้วติดลงไปบนตัวนกโฟม การติดสำลีนั้นให้ใช้มือคลี่
สำลีให้ได้แผ่นตามที่ต้องการ ไม่ให้มีความหนาหรือบาง
เกินไป การติดสำลีลงบนโฟมจะใช้กาวลาเท็กซ์ชนิดข้นติด
จากนั้นก็ใช้พู่กันจุ่มกาวชนิดเจือจาง แล้วทำการเกลี่ยลง
ไปบนสำลีที่ติดกับโฟมเบา ๆ

“การใช้พู่กันชุบกาวเจือจางมาเกลี่ยลงบนสำลีนั้นไม่ควรชุบ
จนชุ่มเปียกจนเกินไป เพราะเวลาเกลี่ยลงบนสำลีจะทำให้
สำลีเปียกเกิน เวลาแห้งสำลีจะแข็ง งานก็จะไม่สวย”

สำหรับการติดสำลีทำเป็นขนนกนี้ ต้องทำเป็นส่วน ๆ เริ่ม
จากการติดที่ใต้ท้องก่อนเป็นอันดับแรก จากนั้นก็ไล่ไปทำ
ปีก แล้วก็ติดปากนกก่อนจึงจะมาติดที่ส่วนหัวเพื่อให้สำลี
ปิดส่วนที่ทำปาก งานจะได้เรียบ สวยงาม ที่สำคัญก่อนที่
จะไปติดขนนกส่วนอื่นต้องรอให้ส่วนที่ทำ
ไว้แห้งสนิทเสียก่อน

เมื่อได้นกประดิษฐ์เรียบร้อยแล้ว ต่อไปก็เป็นขั้นตอนการ
ตกแต่งทำเป็นสินค้าที่สามารถเพิ่มมูลค่าได้อีก ซึ่งจะทำเป็น
อะไรก็ตามแต่ไอเดีย อย่างของกตภรณ์ก็จะประดิษฐ์ทำเป็น
ชิ้นงานที่หลากหลาย ไม่ว่าจะเป็นโมบายแบบต่าง ๆ โดยใช้
วัสดุหลากหลายมาประดิษฐ์ ทั้งเถาวัลย์ หญ้าแฝก ผลงานมี
ให้เลือกมากมายหลายแบบ หรือจะตกแต่งนกบนกิ่งไม้ไว้
สำหรับเสียบแจกันก็ได้ เป็นต้น

ผลงานที่ตกแต่งด้วยนกประดิษฐ์ของกตภรณ์นั้นมีราคาขาย
ชิ้นละตั้งแต่ 35-60 บาท หรือบางชิ้นงานอาจจะมีราคาที่สูง
กว่านี้ ขึ้นอยู่กับแบบที่ทำว่ามีความละเอียดและยาก-ง่ายแค่
ไหน

“การประดิษฐ์นกจากสำลีนั้นเป็นงานที่ทำไม่ยาก ถ้ามีความ
สนใจและตั้งใจก็สามารถไปเรียนรู้ได้ เช่น ที่ศูนย์ฝึกอาชีพ
กรุงเทพมหานคร เขตบางกอกน้อย ที่วัดสุทธาวาส” กตภรณ์
กล่าว

ใครสนใจ “งานประดิษฐ์นกจากสำลี” ของกตภรณ์ ถ้าอยู่ใน
กรุงเทพฯ แวะไปดูได้ที่สีลมคอมเพล็กซ์ เจ้าตัวจะไปออกบูธ
ในวันที่ 26 มี.ค.–2 เม.ย. 2551 ในชื่อร้าน “MK Simmisa”
และ โทร.08-1641-9677 คือเบอร์โทรศัพท์ติดต่อกตภรณ์
อีกหนึ่งเจ้าของไอเดียทำกินที่น่าสนใจ !!.



ตะลึง! พบปลานิลปนเปื้อนยีนปลาหมอเทศ หวั่นทำปลานิลแท้สูญพันธุ์



นักวิจัย มก. ลุยแหล่งน้ำธรรมชาติ เก็บตัวอย่างปลานิลมาศึกษา
พันธุกรรม พบปนเปื้อนยีนปลาหมอเทศอย่างรุนแรงในแหล่งน้ำ
บางแห่ง โดยเฉพาะบริเวณสามร้อยยอด จ.ประจวบฯ หวั่นปลานิล
แท้สูญพันธุ์ วอนช่วยกันอนุรักษ์และไม่เคลื่อนย้ายปลานิลข้ามถิ่น
เพื่อป้องกันปลานิลพันธุ์ทางเข้ายึดพื้นที่

"ปลานิล" ปลาน้ำจืดที่มีอยู่มากในแหล่งน้ำธรรมชาติและ
เป็นอาหารจานเด็ดคู่บ้านของคนไทยมานานหลายสิบปีจนแทบ
จะปฏิเสธไม่ได้ว่าปลานิลกลายเป็นปลาสัญชาติไทยไปแล้ว แต่ปัจจุบันสถานภาพของประชากรปลานิลเริ่มน่าเป็นห่วง เพราะ
นับวันปลานิลแท้ๆ ที่ยังมีพันธุกรรมดั้งเดิมของบรรพบุรุษยิ่งลด
น้อยลงทุกที ซึ่งจากรายงานการวิจัยของ น.ส.ศรีจรรยา สุขมโนมนต์ นักศึกษาโครงการปริญญาเอกกาญจนาภิเษก (คปก.) จากภาค
วิชาเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำ คณะประมง มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ พบว่าปลานิลในธรรมชาติบางแห่งมีการปนเปื้อนยีนของปลาหมอ
เทศอย่างรุนแรง

ศ.ดร.อุทัยรัตน์ ณ นคร ซึ่งเป็นอาจารย์ที่ปรึกษาการวิจัยของ
น.ส.ศรีจรรยา เผยว่า ปลานิล หรือ ออรีโอโครมิส นิโลติคัส
(Oreochromis niloticus) ถูกนำเข้ามาในประเทศครั้งแรกเมื่อ
กว่า 40 ปีก่อน โดยก่อนและหลังที่ปลานิลจะเข้ามาในไทย ก็มี
การนำปลาในกลุ่มเดียวกันเข้ามาด้วย คือ ปลาหมอเทศ หรือ
ออรีโอโครมิส มอสแซมบิคัส (Oreochromis mossambicus)
และปลาออรีโอโครมิส ออเรียส (Oreochromis aureus) แต่
อย่างหลังไม่ค่อยแพร่หลายมากเท่าไหร



ปลาหมอเทศ (ภาพจาก น.ส.ศรีจรรยา สุขมโนมนต์)

"ปลาทั้ง 3 ชนิดนี้สามารถผสมพันธุ์กันได้ และลูกผสมที่เกิดมา
ก็ไม่เป็นหมันด้วย จึงทำให้เกิดการผสมปนเปและแพร่พันธุ์เป็น
จำนวนมาก ซึ่งปัญญานี้ก็พบมาแล้วในหลายประเทศ ขณะที่ใน
ไทยยังไม่ค่อยได้ศึกษากัน และในแต่ละปีก็มีการบริโภคปลานิล
กันมาก เฉพาะปลานิลที่จับจากแหล่งน้ำธรรมชาติก็ไม่ต่ำกว่า
40,000 ตันต่อปี ซึ่งเป็นจำนวนมหาศาลมาก" ศ.ดร.อุทัยรัตน์ เผยความสำคัญของปลานิลอันเป็นที่มาของการศึกษาพันธุกรรม
ปลานิลเพื่อหาทางอนุรักษ์พันธุ์ไว้ให้มีอยู่คู่แหล่งน้ำต่อไป

นักวิจัยศึกษาโดยเก็บตัวอย่างปลานิลจากแหล่งน้ำธรรมชาติ
ได้แก่ อ่างเก็บน้ำบางพระ จ.ชลบุรี, บึงบอระเพ็ด จ.นครสวรรค์
และ สามร้อยยอด จ.ประจวบคีรีขันธ์ โดยตัดครีบปลาเพียงเล็ก
น้อยมาตรวจสอบพันธุกรรม ใช้หลักพันธุศาสตร์ประชากรร่วม
กับเครื่องหมายพันธุกรรม และใช้ประชากรอ้างอิงเป็นปลาพันธุ์
แท้ในกลุ่มปลานิล ได้แก่ ปลานิลพันธุ์จิตรลดา, อูกันดา,
ไอวอรี่โคสต์ (Ivory Coast), กิฟต์ (GIFT), ปลาหมอเทศแท้
จากไอวอรี่โคสต์ และปลา Oreochromis aureus จากอียิปต์

"เมื่อตรวจสอบพันธุกรรมแล้วพบว่าปลานิลในประเทศไทย
ยังคงเกาะกลุ่มกันอยู่ โดยที่มีสายพันธุ์จิตรลดาเป็นบรรพบุรุษ
พันธุ์แท้สอดคล้องกับข้อมูลเดิม แต่ก็ยังพบว่าปลานิลจากแหล่ง
น้ำทั้ง 3 แห่ง มีพันธุกรรมแตกต่างกัน โดยพันธุกรรมของปลานิล
จากบึงบอระเพ็ดมีความใกล้ชิดกับสาย
พันธุ์จิตรลดามากที่สุด รองลงมาเป็นปลานิลจากบางพระ และ
ปลานิลจากสามร้อยยอดอยู่ห่างมากที่สุด" ศ.ดร.อุทัยรัตน์ เผย



ปลานิล (ภาพจาก น.ส.ศรีจรรยา สุขมโนมนต์)

เมื่อนักวิจัยศึกษาต่อก็พบหลักฐานบ่งชีว่าพันธุกรรมปลานิลใน
บางประชากรนั้นไม่บริสุทธิ์เสียแล้วเพราะพบมีบางยีนของปลา
หมอเทศปรากฏอยู่ร่วมด้วยในปลานิลจากสามร้อยยอดมากที่สุด
รองลงมาคือปลานิลจากบางพระ แต่ไม่พบในปลานิลบึงบอระเพ็ด ซึ่งยีนดังกล่าวที่พบปนเปื้อนนั้นเป็นยีนที่มีอยู่ในปลาเทศแท้จาก
ไอวอรีโคสต์ทุกตัวที่นำมาใช้อ้างอิง แต่ไม่ปรากฏอยู่ในปลา
นิลจิตรลดา, อูกันดา และปลานิลอื่นๆ

ศ.ดร.อุทัยรัตน์ บอกต่อว่า ผลของการปนเปื้อนยีนของปลา
หมอเทศในปลานิล จะทำให้อัตราการเจริญเติบโตของปลานิล
ลดลง สีสันกระดำกระด่าง ไม่น่ารับประทาน ที่สำคัญยังมีอัตรา
การรอดต่ำด้วย แต่เมื่อการปนเปื้อนเกิดขึ้นโดยธรรมชาติแล้ว
อาจแก้ไขอะไรไม่ได้แต่เรายังสามารถป้องกันและจำกัดการปน
เปื้อนให้อยู่ในระดับต่ำที่สุดได้โดยไม่นำปลานิลจากแหล่งที่ปน
เปื้อนไปปล่อยในแหล่งน้ำอื่น ไม่นำไปทำพ่อพันธุ์แม่พันธุ์หรือ
นำไปปรับปรุงพันธุ์ ก็จะสามารถควบคุมไม่ให้แพร่กระจายไปได้

ส่วนปลานิลพันธุ์แท้จิตรลดาของไทยนั้นเป็นสายพันธุ์แท้
ที่มีคุณภาพดีมาก และเป็นที่ยอมรับของนานาชาติยังพบว่า
มีความหลากหลายทางพันธุกรรมค่อนข้างเหมาะสม ซึ่งจะทำ
ให้สามารถปรับตัวให้อยู่รอดในธรรมชาติได้ และควรอนุรักษ์
สายพันธุ์ดั้งเดิมที่มีลักษณะดีเอาไว้ ส่วนในธรรมชาติ หากไม่
จับปลามากเกินไป และรักษาสิ่งแวดล้อมไม่ให้ทรุดโทรม แหล่ง
น้ำต่างๆ ก็น่าจะมีพันธุ์ปลานิลมากเพียงพอที่จะดำรงประชากร
อยู่อย่างยั่งยืนได้

ด้านผู้บริโภคหายห่วงได้ เพราะ ศ.ดร.อุทัยรัตน์ บอกว่า
ปลานิลที่ขายอยู่ทั่วไปตามท้องตลาดเป็นปลานิลเลี้ยง ซึ่งส่วนใหญ่เป็นพันธุ์จิตรลดาและกิฟต์ที่ทางราชการเผย
แพร่ให้เกษตรกรไปนานแล้ว เพราะเมื่อหลายสิบยี่สิบปีก่อน
จะมีปัญหาเรื่องพันธุ์ปลานิลที่ไม่น่ารับประทาน ซึ่งอาจเป็นผลมาจากการปนเปื้อนยีนของปลาหมอเทศนั่นเอง





โดย ผู้จัดการออนไลน์

ส้มโอทับทิมสยาม ที่ลุ่มน้ำปากพนังวันนี้กำลังมีชื่อ





ข้อมูลจากสำนักงานเกษตรจังหวัดนครศรีธรรมราช ระบุไว้ว่า
ที่บ้านแสงวิมาน หมู่ที่ 13 ตำบลคลองน้อย อำเภอปากพนัง
จังหวัดนครศรีธรรมราช เป็นหมู่บ้านแรกของอำเภอปากพนัง
ที่มีการปลูกส้มโอเต็มพื้นที่ ภายหลังจากที่โครงการพัฒนาพื้น
ที่ลุ่มน้ำปากพนัง อันเนื่องมาจากพระราชดำริดำเนินการ โดย
นำพันธุ์มาจากอำเภอนครชัยศรี จังหวัดนครปฐม สภาพพื้นที่ของบ้านแสงวิมานนั้นเป็นที่ราบลุ่มป่าชายเลนมี
น้ำขังเป็นส่วนใหญ่

บ้านแสงวิมานเป็นชื่อของสองตระกูล คือ ตระกูลของนายแสง
กับนางมาน ซึ่งเป็นบุคคลที่เข้ามาตั้งถิ่นฐาน ตั้งแต่ปี พ.ศ.2481
หรือประมาณ 70 ปีที่แล้ว โดยมีเครือญาติ ประมาณ 20 ครัวเรือน
อพยพมาจากบ้านปากกลัด อำเภอพระประแดง จังหวัด
สมุทรปราการ และบางครอบครัวจากจังหวัดนนทบุรี มาอยู่ในช่วง
แรกมีอาชีพทำนา แต่รายได้ไม่เพียงพอ ประกอบกับภูมิรู้ในเรื่อง
ทำสวนมาก่อน จึงนำมาใช้ในพื้นที่แห่งนี้ เริ่มด้วยการ ขุดยกร่อง
เพื่อให้สามารถระบายน้ำได้ เช่นแถบสวนของเมืองนนทบุรี ช่วง
ยกร่องใหม่ ๆ ปลูกพืชล้มลุก และไม้ผลหลายชนิด แต่ไม่ประสบ
ผลสำเร็จเท่าที่ควร เนื่องจากประสบปัญหาน้ำท่วมขังในฤดูมรสุม
และบางปีน้ำเค็มทะลักคันกั้นน้ำ เข้าไปท่วมขังร่องสวนพืชผล
ได้รับความเสียหาย




บ้านแสงวิมานเป็นชื่อของสองตระกูล คือ ตระกูลของนายแสง
กับนางมาน ซึ่งเป็นบุคคลที่เข้ามาตั้งถิ่นฐาน ตั้งแต่ปี พ.ศ.2481
หรือประมาณ 70 ปีที่แล้ว โดยมีเครือญาติ ประมาณ 20 ครัวเรือน
อพยพมาจากบ้านปากกลัด อำเภอพระประแดง จังหวัดสมุทรปราการ
และบางครอบครัวจากจังหวัดนนทบุรี มาอยู่ในช่วงแรกมีอาชีพ
ทำนา แต่รายได้ไม่เพียงพอ ประกอบกับภูมิรู้ในเรื่องทำสวนมา
ก่อน จึงนำมาใช้ในพื้นที่แห่งนี้ เริ่มด้วยการ ขุดยกร่อง เพื่อให้
สามารถระบายน้ำได้ เช่นแถบสวนของเมืองนนทบุรี ช่วงยกร่อง
ใหม่ ๆ ปลูกพืชล้มลุก และไม้ผลหลายชนิด แต่ไม่ประสบผลสำเร็จ
เท่าที่ควร เนื่องจากประสบปัญหาน้ำท่วมขังในฤดูมรสุม และบาง
ปีน้ำเค็มทะลักคันกั้นน้ำ เข้าไปท่วมขังร่องสวนพืชผลได้รับความ
เสียหาย

ต่อมาในปี พ.ศ. 2510 ได้นำ กิ่งพันธุ์ส้มโอมาทดลองปลูก
ปรากฏว่าได้ผลเป็นที่น่าพอใจ เนื่องจากส้มโอเป็นพืชที่ทนต่อ
สภาพน้ำท่วมขัง น้ำกร่อย ประกอบ ดินมีสภาพเป็นดินเหนียว จึงทำให้ส้มโอมีรสชาติหวานเข้มไม่ขมแตกต่างจากส้มโอจาก
พื้นที่อื่น




เมื่อประสบความสำเร็จเกษตรกรรายอื่น ๆ ในอำเภอปากพนัง จึงนำมาปลูกบ้างจนเป็นผลให้ทั่วทั้งพื้นที่เต็มไปด้วยสวนส้ม
โอปลูกส้มโอ ที่มีรสชาติหวานเข้ม กุ้งมีสีแดงอมชมพู พันธุ์
ขาวพวง มีรสชาติหวานอมเปรี้ยว

ต่อมาในปี พ.ศ.2523 นายหวัง มัสแหละ ได้นำ พันธุ์ส้มโอ
3 ต้นมาจาก บ้านบราโอ ตำบลประจัน อำเภอยะรัง จังหวัด
ปัตตานี เป็นส้มโอที่มีผลเหมือน พันธุ์ขาวพวง มีกุ้ง เนื้อสีชมพู
ค่อนข้างแดง เป็นพันธุ์พื้นเมือง ผลมีขนาดใหญ่ แต่มีรสขม
แต่เมื่อนำมาทดลองปลูกที่บ้านแสงวิมาน ผลปรากฏว่าออก
ลูกและมีรสชาติหวานขึ้น ผิวผลมีสีเขียวเข้ม และมีขนอ่อนนุ่ม
ปกคลุมทั่วผล คล้ายกำมะหยี่ จากนั้นได้มีการปรับปรุงคุณภาพ
สายพันธุ์แบบภูมิปัญญาท้องถิ่น ใช้เวลาหลายปี ในที่สุดก็ได้
ส้มโอพันธุ์เนื้อสีแดงเข้ม แบบ สีทับทิมรสชาติหวาน หอม นุ่ม
จึงมีการตั้งชื่อขึ้นมาใหม่ เป็น “พันธุ์ทับทิมสยาม”

ลักษณะประจำพันธุ์ ของส้มโอพันธ์นี้คือ ใบค่อนข้างกว้าง
ปลายใบแหลม ใต้ใบมีขนอ่อนนุ่ม ผลมีขนาดใหญ่ เส้นรอบ
ผลประมาณ 16-22 นิ้ว หัวจีบ ผิวผลมีขนอ่อนนุ่มคล้ายกำ
มะหยี่ปกคลุมทั่วทั้งผล เปลือกบางจากความอร่อยและต้อง
ปากของคนไทย จึงทำให้ส้มโอพันธุ์นี้เป็นที่ต้องการของตลาด
อย่างต่อเนื่อง ปัจจุบันราคาขายที่หน้าสวนจะอยู่ที่ ผลละ 50
บาท ราคาร้านค้าริมทางหลวง ผลละ 80-100 บาท ทุกวันนี้
ที่อำเภอปากพนัง มีเกษตรกรปลูกส้มโอพันธุ์ทับทิมสยามกว่า
67.5 ไร่ จำนวน 40 ราย ในพื้นที่ 3 ตำบล ประกอบด้วย คลอง
น้อย เกาะทวด และ ปากพนังฝั่งตะวันตก โดยมีส้มโอที่ให้ผล
แล้ว 30 ไร่ ยังไม่ให้ผลผลิต 37.5 ไร่ ซึ่งผลผลิตที่ได้เฉลี่ยที่
40 ต้น ต่อ 1 ไร่

อันนับเป็นอีกหนึ่งในความภาคภูมิใจของเกษตรกรชาวปากพนัง และที่สำคัญเนื่องจากระบบการบริหารจัดการน้ำในพื้นที่แบบภาค
รวมที่ดีได้เข้ามามีผลให้พื้นที่มีความสมบูรณ์มากยิ่งขึ้นจนเกษตรกร
สามารถประสบความสำเร็จในการเพาะปลูกที่เป็นผลมาจากการ
บริหารจัดการน้ำในโครงการพัฒนาพื้นที่ลุ่มน้ำปากพนังอันเนื่อง
มาจากพระราชดำริ นั่นเอง