May 23, 2008

ฮือพบบ่อน้ำพุร้อนกรุงเก่าต้มไข่10นาทีสุก





ชาวบ้านเมืองกรุงเก่าฮือฮาแห่กันนำไข่ไปต้มในหลุมน้ำพุร้อน
พบอยู่ใกล้กับหมู่บ้านญี่ปุ่น ส่งกลิ่นกำมะถันคลุ้งไปทั่ว เชื่อเป็นเพราะเหตุการณ์แผ่นดินไหวอาจทำให้ใต้แผ่นดินเปลี่ยน
แปลง วอนให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้ามาตรวจสอบ

เมื่อเวลา 17.00 น.วันที่ 18 พ.ค. ผู้สื่อข่าวได้รับแจ้งจาก
ประชาชนที่อยู่บริเวณชุมชน ม.7 ต.เกาะเรียน อ.พระนคร
ศรีอยุธยา จ.พระนครศรีอยุธยา ว่า พบน้ำร้อนอยู่ในบ่อน้ำ
ใกล้กับร้านขายของชำ ริมถนนสายอยุธยา-บางปะอินสาย
ใน เลยวัดพนัญเชิงวรวิหาร ไปประมาณ 500 เมตร ก่อน
ถึงหมู่บ้านญี่ปุ่น จึงได้เดินทางไปพิสูจน์ข้อเท็จจริง

พบว่าบริเวณริมถนนมุ่งหน้าไป อ.บางปะอิน เป็นร้านขาย
ของชำ เลขที่ 1/9 ม. 7 ต.เกาะเรียน อ.พระนครศรีอยุธยา
ปลูกเป็นบ้านหลังเล็กๆ ยกพื้นสูง อยู่ห่างจากถนนประมาณ
5 เมตร ที่พื้นด้านล่างใกล้กับเสาไฟฟ้ามีหญ้าขึ้นรก และยัง
มีรางน้ำไหลผ่าน ห่างจากลำลางน้ำประมาณ 1 เมตรเข้า
ไปทางใต้ถุน เป็นหลุมน้ำเล็กๆเดือดปุดๆขึ้นมา มีควัน
และกลิ่นกำมะถันคลุ้งไปประชาชนที่อยู่บริเวณนั้นจึงได้
ทดลองนำไข่ไก่ลงไปวางปรากฎว่าไข่สุกในเวลาประมาณ
7-10 นาทีเท่านั้น




นายไพรวัลย์ ธรรมพร อายุ 44 ปี เจ้าของร้านขายของ
ชำ ได้ลงไปขุดให้บ่อน้ำดังกล่าวกว้างเส้นผ่าศูนย์กลาง
ประมาณ 20 ซ.ม. ลึกประมาณ 1 ฟุตเศษ ปรากฎว่า
มีควันคลุ้งออกมามากกว่าเดิม และมีกลิ่นเหม็นฉุน
เหมือนกำมะถัน และเมื่อนำไข่ลงไปต้มอีก ก็ปรากฎว่า
ไข่ที่ต้มสุกทุกฟองอย่างรวดเร็ว

นายไพรวัลย์ เปิดเผยว่า ก่อนหน้านี้เมื่อช่วงบ่ายวัน
เดียวกัน ขณะที่ตนและลูกสาว กำลังนั่งเล่นอยู่ที่ระเบียง
บ้าน ก็มองลงไปเห็นมีตาน้ำผุดขึ้นมา และมีควันขึ้น
จึงได้ลงไปดู เอามือแตะๆก็พบว่ามีความร้อนจึงได้
ลองเอาไข่วาง ปรากฎว่าไข่สุกในเวลา 7-10 นาที
จึงได้ขุดให้กว้างขึ้นอีก แล้วลองต้มอีก ปรากฎว่าไข่
ก็สุกอย่างรวดเร็ว ตนได้ให้เจ้าหน้าที่ของการไฟฟ้ามา
ดูว่าเกิดจากกระแสไฟฟ้ารั่วหรือไม่ เนื่องจากมีเสาไฟฟ้า
อยู่ แต่ทางเจ้าหน้าที่ไฟฟ้าก็ยืนยันว่าไม่มีกระแสไฟฟ้า
รั่วแต่อย่างใด เนื่องจากลำรางน้ำที่อยู่ใกล้ก็ไม่ได้รับ
ผลอะไร ปลายังสามารถว่ายน้ำได้ด้วย ซึ่งร้านของตน
ปลูกมากว่า 20 ปีแล้วยังไม่เคยเกิดปรากฎการณ์เช่น
นี้มาก่อน

นายสำเริง อดิศะ อายุ 48 ปี ประชาชนที่เดินทางมาดู
เปิดเผยว่า เชื่อว่าน่าจะเป็นน้ำพุร้อน และเกิดจากสาเหตุ
ของแผ่นดินไหวเกี่ยวกับรอยเลื่อนของเปลือกโลกที่ทำ
ให้เกิดการเปลี่ยนแปลงของใต้พื้นโลก อยากให้เจ้าหน้า
ที่หรือนักวิชาการมาดู หากเป็นน้ำพุร้อนจริงจะได้เป็น
แหล่งท่องเที่ยวแห่งใหม่

No comments: