Jun 20, 2008

พิสูจน์สาวตาเอกซเรย์ มองทะลุคน-เก่งกว่าหมอ



น.ส.นาตัลยา นิโคลาเยฟน่า เดมคินา หรือ "นาตาชา" ชาวรัสเซีย
ได้ชื่อว่าเป็น "สาวตาเอกซเรย์" เธอเกิดที่เมืองซารานสค์เมื่อ
พ.ศ.2530 ปัจจุบันอายุ 21 ปี และอ้างว่ามีตาเอกซเรย์มองเห็น
อวัยวะภายในของบุคคลอื่นๆ ตั้งแต่อายุ 10 ขวบ

"ฉันมองได้ 2 ลักษณะ ตาสามารถสวิตช์ไปมาได้ ไม่ทราบเหมือน
กันว่ามันเกิดขึ้นได้อย่างไร การสวิตช์นั้นไม่ยาก เพียงแค่นึกขึ้นมา
เท่านั้น ฉันก็จะเห็นอวัยวะภายในทั้งหมดของคน ยากเหมือนกันนะ
ที่จะอธิบายว่า คนๆ นั้นป่วยเป็นโรคอะไรอยู่ อวัยวะที่มีปัญหาคล้าย
จะมีรังสีออกมา" นาตาชากล่าว

ความสามารถของนาตาชามีขึ้นในวันหนึ่งขณะที่เธออยู่บ้านกับ
นางทัตยาน่า วลาดิมอฟน่า มารดา ทันใดนั้นก็มองเห็นอวัยวะ
ภายในของมารดา และอธิบายว่า อวัยวะภายในนั้นเป็นอย่างไร
สำหรับภาพที่เธอเห็นนั้นเป็นภาพสี และเริ่มทำการวิเคราะห์เมื่อ
เปรียบเทียบอวัยวะภายในของคนหลายๆ คน

ต่อมาเธอก็ดูอวัยวะภายในของญาติ คนรู้จัก นางทัตยาน่ากล่าว
ว่า ตอนแรกเธอไม่กล้าบอกเรื่องความสามารถของลูกสาวกับใคร
แต่ผู้คนก็มาที่บ้านเธอเรื่อยๆ ครั้งหนึ่งหญิงคนหนึ่งมาหานาตาชา
บอกว่าเธอมีลูกยาก แม้จะใช้เวลารอคอยมาหลายปีแล้ว นาตาชา
รับปากที่จะช่วยเหลือ จากนั้นไม่นาน หญิงคนนี้ก็คลอดบุตรชาย
แต่เธอกลับไม่เชิญนาตาชาแม้แต่จะไปเยี่ยมทารกนี้

จากนั้นจนชื่อเสียงของเธอเข้าหูสื่อมวลชน ทั้งของรัสเซียเองและ
ต่างชาติ อย่างไรก็ตาม เธอไม่สามารถมองเห็นอวัยวะภายในของ
ตัวเอง และการมองอวัยวะภายในของผู้อื่นทำได้ในช่วงกลางวัน
เท่านั้น

ด้านนายนิโคไล เดมคินา บิดาของนาตาชา กล่าวว่า "เราซ่อนความ
สามารถพิเศษของนาตาชาไว้นานมาก แต่ความสามารถนี้กลายเป็น
ความสนใจของสาธารณชนไปแล้ว บ้านเรามีผู้สื่อข่าวมาหาเป็นจำนวน
มาก หนังสือพิมพ์รัสเซียเขียนถึงนาตาชา และบ่อยครั้งที่ข้อความใน
หนังสือพิมพ์ทำให้เรารู้สึกเสียใจ"



จากรายงานของสื่อมวลชน นาตาชาระบุว่า บุคคลที่เธอมองเห็น
อวัยวะภายในนั้นกำลังป่วยเป็นโรคอะไร ได้ถูกต้องแม่นยำกว่า
แพทย์ที่มีอุปกรณ์ทางการแพทย์เข้ามาช่วยเหลือ จากนั้นหนัง
สือพิมพ์เดอะซันของอังกฤษ เชิญนาตาชากับมารดาไปกรุงลอน
ดอน พร้อมเข้ารับการทดสอบตาหน้ากล้องโทรทัศน์

ผลที่ได้ปรากฏว่า เธอสามารถมองออกว่า ไบรโอนี่ วาร์ดเดน ผู้สื่อ
ข่าวของเดอะซัน บาดเจ็บที่อวัยวะภายในจากอุบัติเหตุรถยนต์
แต่บ่ายเบียงที่จะตอบว่า มีอวัยวะใดที่หักบ้าง

จนช่องดิสคัฟเวอรี่ สนใจปรากฏการณ์ที่เกิดขึ้นกับนาตาชา จึง
เชิญเธอมารับการทดสอบที่สหรัฐ โดยคณะที่เตรียมการทดสอบ
คือ คณะกรรมาธิการทดสอบทางวิทยาศาสตร์ถึงปรากฏการณ์ที่
อ้างว่าเหนือธรรมชาติ (CSICOP) และคณะกรรมาธิการวิทยาศาสตร
์การแพทย์และสุขภาพจิต (CSMMH) ส่วนผู้ที่ทำการทดสอบคือ
ศ.ดร.เรย์ ไฮแมน จากมหาวิทยาลัยโอเรกอน ศ.ดร.ริชาร์ด ไวส์แมน ผู้เชี่ยวชาญด้านจิตวิทยาจากมหาวิทยาลัยเฮิร์ตฟอร์ดไชร์ นาย
แอนดรูว์ สคอลนิก บรรณาธิการวารสารของสมาคมแพทย์อเมริกัน

การทดลองมีอยู่ว่า เธอต้องมองอวัยวะภายในของคน 7 คน โดย
6 คนในนั้น มีความผิดปกติของอวัยวะภายในเรียงดังนี้คือ ถูกผ่าตัด
ไส้ติ่งออกไปแล้ว ถูกผ่าตัดที่ด้านล่างของหลอดอาหาร มีแม็กที่ใช้ในทางการแพทย์ติดอยู่ที่หน้าอกเนื่องจากการผ่าตัดหัวใจ
มีผู้ใส่ข้อต่อสะโพกเทียม มีผู้ถูกตัดปอดด้านบนของปอดซ้ายออก มีผู้ที่ต้องใส่โลหะที่กะโหลกเนื่องจากเข้ารับการผ่าตัดเนื้องอกในสมอง
ส่วนบุคคลที่ 7 มีสุขภาพแข็งแรง ไม่มีความผิดปกติใดๆ

หลักการตัดสินคือ นาตาชาจะต้องบอกว่า ใครมีอวัยวะภายในที่ผิด
ปกติให้ถูกต้องอย่างน้อย 5 ใน 7 คน ถึงจะตัดสินได้ว่า ความสามารถของเธอน่าจะทำการทดสอบทางการแพทย์ต่อไป

อย่างไรก็ตาม ปรากฏว่า นาตาชาตอบถูกเพียง 4 ใน 7 เท่านั้น แม้ว่า
นางทัตยาน่า มารดา จะกล่าวกับใครต่อใครว่า ลูกสาวไม่เคยทายผิดเลย

ศ.ดร.ไวส์แมน มีความเห็นว่า "ขณะทำการทดสอบ ความรู้สึกประทับใจที่มีต่อนาตาชาของผู้ชมและคณะกรรมาธิการนั้น
แตกต่างกัน นาตาชาใช้เวลานานถึง 4 ชั่วโมงกว่าจะตอบได้ และ
หลายครั้งเธอตอบผิด ผมคิดว่า ผู้ชมคงลุกออกไปแล้ว แต่ที่ไหน
ได้ ผู้ชมกลับเชื่อเธอ ผมคิดว่า ความเชื่อของผู้ชมที่มีต่อนาตาชาคง
เหมือนกับความเชื่อที่มีต่อหมอดู ซึ่งผู้ชมให้ความสนใจคำพูดของ
นาตาชาในส่วนที่ผู้ชมเชื่อเท่านั้น"

ด้านนาตาชาแย้งผลของคณะกรรมาธิการที่ทำการตรวจสอบว่า ความสามารถของเธอนั้นไม่เพียงพอที่จะเข้ารับการศึกษาทาง
วิทยาศาสตร์ต่อไป เธอกล่าวว่า สภาพและสิ่งแวดล้อมขณะทำ
การตรวจสอบนั้น ไม่เหมาะที่เธอจะทำการทดสอบ เช่น เธอไม่
เคยเอกซเรย์คนมากเท่านี้มาก่อน

ส่วนคณะกรรมาธิการระบุว่า การทดลองนี้มีข้อบกพร่องหลายข้อ
เช่น นาตาชามาถึงสถานที่ทำการทดสอบก่อนเวลาที่นัดหมายไว้
ทำให้เธอพบอาสาสมัคร 2 คนก่อนเวลา ทั้งๆ ที่เธอไม่ควรพบกับ
อาสาสมัครก่อนหน้านั้นเลย

ดังนั้น เมื่อเธอได้รับเชิญจาก ศ.โยชิโอะ มาชิ ให้ไปเข้ารับการทด
สอบที่มหาวิทยาลัยโตเกียวอีเล็กทริกคัลประเทศญี่ปุ่นเธอจึงออก
กฎว่า ต้องให้อาสาสมัครที่เข้ามารับการทดสอบนำใบรับรองแพทย์
ที่ระบุถึงอาการผิดปกติภายในมาด้วย อาสาสมัครยังต้องระบุว่า มี
ความปกติตรงส่วนใดของร่างกาย เช่น ช่องท้อง ศีรษะ เธอต้องใช้
เวลานานจนกว่าจะพอใจเพื่อจะระบุความผิดปกติ

จากเว็บไซต์ของนาตาชา ระบุว่า เธอเห็นข้อเข่าเทียมของอาสา
สมัคร เห็นอาสาสมัครกำลังตั้งครรภ์อ่อนๆ เธอยังทายถูกว่า สุนัข
ตัวหนึ่งใส่อุปกรณ์การแพทย์ไว้ที่ขาหลังด้านขวา อย่างไรก็ตาม ทางมหาวิทยาลัยญี่ปุ่นไม่เปิดเผยรายละเอียดของการทดลองให้
บุคคลภายนอกทราบ

ด้านนายแพทย์ไบรอัน โจเซฟสัน ผู้อำนวยการโครงการ
Mind-Matter Unification มหาวิทยาลัยเคมบริดจ์ ประเทศอังกฤษ
และเคยได้รับรางวัลโนเบลสาขาฟิสิกส์ มีความเห็นถึงการทดสอบ
ของคณะกรรมมาธิการทดสอบทางวิทยาศาสตร์ถึงปรากฏการณ์
ที่อ้างว่าเหนือธรรมชาติ และคณะกรรมาธิการวิทยาศาสตร์การ
แพทย์และสุขภาพจิตว่า "มีความพยายามที่จะดิสเครดิตความ
สามารถของนาตาชา และผลที่ได้ควรจะระบุว่า ไม่สามารถระบุ
ได้ เนื่องจากการที่นาตาชาระบุอาการได้ถูกต้อง 4 ใน 7 คน นับ
ว่าตอบถูกถึงกว่าครึ่ง ซึ่งเป็นสถิติที่น่าสนใจ"

ความสามารถของนาตาชา สาวน้อยจากรัสเซีย จึงยังเป็นที่ถกเถียง
กันในชุมชนวิทยาศาสตร์ว่า สายตาเอกซเรย์นั้นมีอยู่จริงหรือ ปัจจุบัน
นาตาชาเรียนอยู่คณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยซีมาชโค สเตต
สตอมมาโทโลจิคัล กรุงมอสโก และทำงานอยู่ที่ศูนย์รักษาพิเศษ
นาตัลยา เดมคินา (TSSD) ซึ่งศูนย์นี้จะระบุโรคและรักษาผู้ป่วยด้วย
ความร่วมมือจาก "ผู้เชี่ยวชาญที่มีความสามารถพิเศษเหนือธรรมชาติ
รวมทั้งผู้เชี่ยวชาญการแพทย์แผนโบราณ"


ข้อมูลจาก

No comments: