May 17, 2008

ภัยมืดที่สาว ๆ ต้องระวัง

ภัยมืดที่สาว ๆ ต้องระวัง



เคยรู้สึกกลัวเวลาที่ต้องกลับบ้านคนเดียวมืดๆ ระแวงเวลา
ที่ต้องเดินออกจากออฟฟิศคนเดียว หรือผวาเวลาที่ต้อง
นั่งรถแท็กซี่กลับบ้านดึกๆบ้างหรือเปล่า


ไม่ผิดหรอกที่จะรู้สึกแบบนั้น และไม่ต้องกังวลด้วยว่าคุณจะ
กลายเป็นสาวพารานอยด์จนเกินเหตุ หากว่ายังติดตามข่าว
หน้าหนึ่งที่มีคดี ปล้น จี้ หรือทำร้ายร่างกายจากหนังสือพิมพ์
หัวสีแทบทุกวัน แต่ถ้าใครยังคงคิดว่าเรื่องแบบนี้ยังห่างไกล
และมีโอกาสน้อยมากที่จะเกิดขึ้นกับตัวเอง กรุณาหยุดดูแผน
ภูมิสถิติเกี่ยวกับคดีอาชญากรรมข้างล่างสักนิด

สถิติของคดีอาชญากรรมตั้งแต่เดือนเมษายน-มิถุนายน
2550

ภัยมืดที่สาว ๆ ต้องระวัง



คงเห็นกันแล้วว่าช่วงปลายฤดูร้อนย่างเข้าฤดูฝนมีสถิติ
อาชญากรรมร้ายๆกับผู้หญิงค่อนข้างสูง ไหนจะฟ้าฝนที่
ไม่เป็นใจให้ต้องใส่เสื้อผ้าเปียกๆตากฝน ท่ามากลางอากาศ
มืดมัวสลัวครึ้มล่อตาล่อใจมิจฉาชีพ ไหนจะการจราจรติด
ขัดทำให้ต้องกลับบ้านดึกดื่น

รู้ตัวอย่างนี้แล้วเรานี่แหละต้องรู้จักป้องกันตัวเองดีกว่ารอ
คนอื่นมาช่วยแล้วต้องเสียใจทีหลัง


ต่อไปนี้คือบางส่วนจากนิตยสารที่เราหยิบยกขึ้นมา
เพื่อเตือนสาวๆ ให้ระวังภัยมืดใกล้ตัวคุณ!!!

ไม่อยากเสี่ยงควรเลี่ยง 10 ซอยอันตราย

ซอยลาดพร้าว 21 เขตจตุจักร

ซอยวิภาวดี 64 เขตหลักสี่

ซอยจรัลสนิทวงศ์ 37

ซอยจรัลสนิทวงศ์ 89

ซอยสวนผัก 11 เขตตลิ่งชัน

ซอยภิรมย์ เขตสัมพันธวงศ์

ซอยเจริญนคร 23 หรือ ซอยอู่ใหม่ เขตคลองสาน

ซอยวิมุตยาราม เขตบาง

ซอยร่วมรักษา เขตห้วยขวาง

ซอยวัดมะกอก ถนนราชวิถี ย่านอนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ


ภัยมืดที่สาว ๆ ต้องระวัง



วิธีปฏิบัติตัวเมื่อต้องนั่งแท็กซี่คนเดียว

สาวๆ จ๋า เมื่อหน้าฝนมาเยือนการเดินทางย่อมไม่สะดวก
สบายเหมือนฤดูอื่นๆ แต่เรียกแท็กซี่ได้แล้วก็อย่างเพิ่ง
ดีใจ อย่าเผอเรอนั่งสบายๆ ในแอร์ชุ่มช่ำจนลืมนึกถึง
ความปลอดภัยละ

1. เริ่มตั้งแต่ก่อนขึ้นรถ เวลาเปิดประตูบอกที่หมายให้
ังเกตว่าในรถมีทะเบียนรถที่เป็นแผ่นเหล็กติดอยู่ที่
บริเวณประตูหรือไม่ และสังเกตว่าคนขับหน้าตา ท่า
ทาง ดูน่าไว้วางใจหรือไม่ มีอาการมึนเมารึเปล่า

2. เมื่อขึ้นไปนั่ง ควรจำทะเบียนรถทันที หรือจดใส่
กระดาษไว้ ดูชื่อคนขับ และดูรูปบัตรที่ติดในรถกับคน
ที่ขับว่าตรงกันหรือไม่ แต่จะให้ดีที่สุดควรโทรศัพท
หาคนที่กำลังจะไปหา แล้วบอกไปเลยดังๆ ให้คนขับ
ได้ยินว่า " ฉันขึ้นรถ TAXI เขียว-เหลือง ป้ายทะเบียน
กทม. มจ.xxxx กำลังจะไปแล้วนะ เดี๋ยวเจอกัน" ไม
่ต้องอายเพราะความปลอดภัยของเราใครจะรับผิดชอบ
จริงไหม

3. ถ้าโดยสารคนเดียวควรเลือกนั่งเบาะหลังที่นั่งคน
ขับ โดยนั่งให้ชิดประตูเพราะจะทำให้การพยายามทำ
อันตราย ต่อผู้โดยสารโดยตรงเป็นไปได้ยากขึ้น แต
่เวลาจะลงรถควรลงทางประตูด้านซ้ายเพราะจะได้
เป็นการกันไม่ให้คนขับลงจากรถแล้วมาทำอันตราย
ในระยะประชิดได้

4. พยายามอย่าบอกว่าไม่รู้หรือไม่ชินกับเส้นทาง
ถึงแม้จะมาจากต่างจังหวัด ถ้าคนขับถามว่าไปทาง
ไหนดี ควรบอกไปว่า "ไปทางไหนก็ได้......แต่ให้ด
ีเลือกทางที่รถไม่ค่อยติด และไม่เข้าซอยเปลี่ยว "
ถ้าไม่รู้ทางทั้งคนนั่งและคนขับ อาจเปลี่ยนรถคัน
ใหม่ หรือถามทางกับคนแถวนั้น แต่ที่ที่จอดถามต้อง
ปลอดภัย คนพลุกพล่าน

5. หากคนขับแท็กซี่ชวนคุย ควรคุยเฉพาะเรื่องเส้น
ทางเท่านั้น ไม่ควรคุยเรื่องส่วนตัว เพราะจะเป็นการ
นำไปสู่การคุยเรื่องทะลึ่งลามกได้

6. ขณะนั่งบนรถควรสังเกตอะไรบ้าง

* เส้นทางตลอดเวลาที่ผ่าน อาทิ เช่น ป้ายบอกชื่อถนน
ชื่อซอย ถ้ารู้สึกผิดปกติให้โทรหาญาติหรือเพื่อนโดย
บอกเส้นทางที่ผ่านมาทุกระยะ

* หากคนขับ ปรับกระจกมองข้างหลัง มาดูระดับขา
หรือ ระดับหน้าอกของเรา ควรลงจากรถเพราะอาการ
เหล่านี้แสดงให้เห็นว่าคนขับไม่ให้เกียรติต่อผู้โดยสาร
ผู้หญิง และบ่งบอกว่าเขาอาจกำลังคิดอะไรที่ไม่ดีอยู่
แต่หากจำเป็นต้องนั่งต่อควรเอากระเป๋ามาปิดขาหรือ
เอามากอดอกไว้ ทำท่าทางให้ดูน่าเกรงใจ ที่สำคัญ
ก่อนออกจากบ้านก็ควรจะดูแลตัวเองเบื้องต้นไว้บ้าง
เช่น ไม่แต่งตัวโป๊เกินไป หรือมีเสื้อคลุมที่มิดชิดติดตัว

* ควรสังเกตว่าคนขับขยับมือมาที่ช่องแอร์หรือฉีด
สเปรย์ที่ช่องแอร์หรือไม่ ถ้าผิดสังเกต เริ่มรู้สึกมีอาการ
แปลกๆ เช่น รู้สึกปวดหัว คลื่นไส้จะอาเจียน รู้สึกเหมือน
จะเป็นลม ไม่มีเรี่ยวแรง แสดงว่าคุณอาจโดนมอมยา
ควรหาที่ปลอดภัยคนเยอะๆ สว่างๆ แล้วลงจากรถ รีบ
โทรหาญาติหรือเพื่อนทันที หากโชคดีควรหายใจเอา
อากาศบริสุทธิ์เยอะๆ หาที่พิงแล้วจะค่อยๆ ดีขึ้น

* ควรระวังคนขับบางรายที่ใช้วิธีช่วยขนสัมภาระ แล้ว
พยายามจะแตะเนื้อต้องตัวแบบไม่ตั้งใจ บางคนฉวย
โอกาสนี้ป้ายยาสลบใส่โดยที่ผู้โดยสารไม่รู้ตัว

7. สิ่งที่สำคัญที่สุดเวลานั่งแท็กซี่ คือ

* อย่าคิดว่า " คงไม่มีอะไร นั่งหลายครั้งแล้วไม่เห็นม
ีอะไรเลย" เพราะจะทำให้คุณปิดโอกาสในการระมัด
ระวังภัยของตัวเอง

* อย่าเผลอหลับบนรถแท็กซี่เด็ดขาด ไม่ว่าจะเหนื่อย
ไม่สบาย หรือเมาแค่ไหนก็ตาม

8. ถ้าถูกพาไปที่เปลี่ยว อย่าเปิดโอกาสให้คนขับประชิด
ตัว ควรพยายามชิงหนีออกมาก่อน ถ้าไม่มีอาวุธป้องกัน
ตัวให้เอารถเป็นที่กำบัง หรือ วิ่งรอบรถพร้อมกับ ร้อง
ตะโกนให้คนช่วยเพื่อถ่วงเวลา ถ้านานแล้วยังไม่มีใคร
มาช่วย ให้ตะโกนดังๆ ว่า " ตำรวจมาแล้ว ตำรวจช่วยด้วย
" ให้คนร้ายหันไปมอง แล้ววิ่งสุดชีวิต ถ้าฉวยจังหวะนั้นได้
ก็มีความเป็นไปได้สูงว่าอาจจะวิ่งห่างจากคนร้ายได้ประมาณ
100 เมตร

9. ถ้าบอกให้จอดแล้วไม่ยอมจอดแต่ยิ่งขับเร็วขึ้น ก่อนอื่น
ต้องตั้งสติดีๆแล้วเปิดประตูด้านหนึ่ง (ควรเป็นประตูด้านซ้าย
ของเบาะผู้โดยสาร จำไว้ว่าเราต้องนั่งเบาะข้างหลังคนขับ)
ให้สะบัดค้างไว้นอกรถเพื่อสร้างจุดสังเกต มีโอกาสเป็นไปได้
สูงที่จะมีคนสังเกตเห็นและช่วยแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจ

ภัยมืดที่สาว ๆ ต้องระวัง



ถ้าเลี่ยงไม่ได้ ให้สกัด 7 จุดสำคัญ

1. บริเวณศีรษะ
จุดอ่อนสำคัญที่จะหยุดคนร้าย ได้แก่ ดวงตา หู จมูก ขมับ
ท้ายทอย ปลายคาง โดยเลือกใช้สิ่งของที่มีลักษณะแหลมๆ
แทงไปตรงจุดดังกล่าว หรือฉีดน้ำหอม/น้ำยาดับกลิ่นปาก
ไปที่ตา รับรองคนร้ายไม่รอดแน่

2. ลูกกระเดือก
ควานหาของแหลมๆ เช่น กุญแจ แปรงสีฟัน หรือ มาสคารา
ก็ได้ แทงเข้าไปบริเวณนี้จะมีผลทำให้กระดูกอ่อนของกล่อง
เสียงโจรแตกจนถึงขั้นพูดไม่ได้ก็มี

3. ลิ้นปี่
ตรงกลางบริเวณท้องส่วนบน อาจจะใช้สมุดเล่มหนา แปรง
สีฟัน หรือโทรศัพท์มือถือ กระทุ้งไปตรงจุดนี้ให้เต็มแรง คน
ร้ายจะเกิดอาการจุก ตัวงอและล้มลงได้

4. เป้ากางเกง
ถือเป็นจุดยุทธศาสตร์ และง่ายต่อการจู่โจม หากผู้ชายถูก
กระแทกบริเวณนี้จะอ่อนแรงลง ยิ่งถ้าแรงมากจะส่งผลให้
ลูกอัณฑะแตกถึงขั้นเสียชีวิตได้เลยทีเดียว

5. หน้าแข้ง
วินาทีนี้แล้วคงไม่ต้องนึกเสียดายของกันแล้วละ หยิบของ
ที่แข็งแรงพอจะเหวี่ยงได้เช่น กล้องดิจิตอล ฟาดสุดแรง
เข้าที่หน้าแข้งไปเลยเพื่อสร้างความเจ็บปวดและทำให้เสีย
การทรงตัว เป็นโอกาสให้รีบวิ่งเอาตัวรอด

6. หลังเท้า
ถึงตอนนี้รองเท้าส้นสูงที่สาวๆ มักบ่นว่าปวดเมื่อยยามสวม
ใส่จะกลายเป็นประโยชน์ยามคับขัน เหยียบไปอย่างแรง
ย้ำๆๆๆ จะยิ่งดีและถ้ายังมีโอกาสให้ตามด้วยยุทธศาสตร
ข้ออื่นอีกก่อนผละหนี

7. นิ้วมือ
อาจจะใช้ที่ดัดขนตาหนีบไปที่นิ้วมืออย่างแรงหรือหักนิ้ว
ไหนก็ได้กลับอีกด้าน วิธีนี้ต่อให้คนร้ายตัวใหญ่แค่ไหน
ก็ต้องสยบ

From : Forward Mail

No comments: