Apr 30, 2008

น้ำอสุจิทำให้อาการมะเร็งปากมดลูกรุนแรงขึ้น



เรื่องนี้เป็นการแนะนำเพื่อส่งเสริมการใช้ถุงยางอนามัย
ให้มากขึ้น

การตัดสินใจไม่ใช้ถุงยางอนามัยสามารถทำให้เกิดอาการข้าง
เคียงในทางลบ รวมถึงที่นักวิทยาศาสตร์กล่าว นั่นคือ การเพิ่ม
ความรุนแรงของมะเร็งปากมดลูกได้

นักวิจัยได้แสดงให้เห็นว่าน้ำอสุจิบรรจุฮอร์โมนจำนวนมหาศาล
ที่กระตุ้นการเติบโตของหลอดเลือด และเซลล์มะเร็งในมดลูก หรือบริเวณปากมดลูกของสตรีนั้นมีตัวรับฮอร์โมนเหล่านี้จำนวน
มาก การรวมกันของเหตุผลนี้สามารถชี้ให้เห็นอันตรายในสตรี
ต่อความเสี่ยงในการเป็นมะเร็ง หรือสตรีที่เป็นมะเร็งในระยะแรก

การค้นพบนี้ได้เพิ่มน้ำหนักในการรณรงค์ให้ใช้ถุงยางอนามัย
โดยเฉพาะในประเทศแถบแอฟริกา และอเมริกาใต้ที่เป็นมะเร็ง
ปากมดลูกกันมากที่สุด

ทีมวิจัยของ Henry Jabbour แห่งสภาวิจัยทางการแพทย์เกี่ยว
กับวิทยาศาสตร์การสืบพันธ์ของมนุษย์ในกรุง Edinburgh
สหราชอาณาจักร ร่วมกับนักวิทยาศาสตร์จากมหาวิทยาลัย
Cape Town ประเทศแอฟริกาใต้ โดยสังเกตที่พรอสตาแกลน
ดิน (prostaglandin) ฮอร์โมนที่ร่างกายผลิตได้เองตามธรรม
ชาติ เช่น จากอวัยวะสืบพันธ์ของเพศหญิงฮอร์โมนเหล่านี้
ช่วยควบคุมระบบภูมิคุ้มกันและการเจริญเติบโตของเซลล์

ปี 2004 Jabbour และทีมงานได้แสดงระดับของตัวรับ
พรอสตาแกลนดิน ที่มักเพิ่มขึ้นในเซลล์มะเร็งปากมดลูก
และมดลูก (ref.1) “เรายังไม่รู้ว่าทำไมถึงเป็นเช่นนี้”
Jabbour ยอมรับ

น้ำอสุจิประกอบด้วยฮอร์โมนพรอสตาแกลนดินเข้มข้น
เป็นพันๆ เท่ามากกว่าที่พบในเซลล์สืบพันธ์ของเพศหญิง
Jabbour กล่าวว่า “มีปริมาณมหาศาลมากเมื่อเทียบกับ
ในระดับสรีระปกติ” ดังนั้นทีมงานจึงสืบหาว่าจะเกิดอะไร
ขึ้นเมื่อฮอร์โมนจำนวนมากเหล่านี้พบกับเซลล์มะเร็ง

ทีมงานนำเซลล์มะเร็งมาตรฐานมาเพิ่มจำนวนตัวรับ
พรอสตาแกลนดินให้มีระดับเท่ากับที่พบในมะเร็งปากมดลูก จากนั้นใส่น้ำอสุจิเข้าไปแล้วสังเกตดูว่าพรอสตาแกลนดิน
จะมีปฏิกิริยาอย่างไร ตามคาด มันไปกระตุ้นยีนในเซลล์
มะเร็งที่ทำให้หลอดเลือดเติบโต รายงานโดยวารสาร
Endocrinology (ref.2) ในผู้ป่วย มันจะขยายขนาดก้อนเนื้อ และเกิดขึ้นเหมือนกันกับเซลล์ที่นำมาจากสตรีที่ถูกวินิจฉัยว่า
เป็นมะเร็งมดลูก รายงานในวารสารHuman Reproduction
(ref. 3)

“ซึ่งมีผลตามหลังที่เป็นบวกด้วย” Jabbour กล่าว “เอนไซม์ที่สร้างพรอสตาแกลนดินในเซลล์สืบพันธ์เพศหญิง
ก็ถูกเพิ่มการกระตุ้นการทำงาน พรอสตาแกลนดินจึงถูกสร้าง
มากขึ้นด้วย”

อย่างไรก็ตาม นักวิจัยไม่รู้ว่าปฏิกิริยาอะไรที่อาจเกิดขึ้นกับ
มะเร็งต่อมลูกหมาก

มะเร็งปากมดลูกเป็นมะเร็งที่พบมากที่สุดในสตรีที่อาศัยอยู่
ในประเทศกำลังพัฒนา ปกติมันจะถูกกระตุ้นโดยไวรัส papilloma
ที่ติดต่อด้วยการมีเพศสัมพันธ์ จึงแนะนำให้ใช้ถุงยางอนามัย
เพื่อลดความเสี่ยงในการเป็นโรคมะเร็ง

ปัจจุบัน ดูเหมือนน้ำอสุจิยังสามารถทำให้มะเร็งรุนแรงขึ้นได้
ด้วย Jabbour แนะนำว่า สตรีที่มีเพศสัมพันธ์เป็นประจำซึ่ง
เสี่ยงต่อการเป็นมะเร็งปากมดลูกและมดลูก ควรแนะนำให้คู่
สวมสวมถุงยางอนามัย”

Jabbour เพิ่มเติมว่า การปิดกั้นตัวรับพรอสตาแกลนดินอาจ
มีประสิทธิภาพเป็นทางเลือกหนึ่งในการรักษามะเร็งปากมดลูกได้ “นั่นจะเป็นการเข้าถึงต้นตอของพรอสตาแกลนดินทั้งสอง – ทั้งที่สตรีผลิตขึ้นเองโดยธรรมชาติและที่ถูกนำเข้าสู่ร่าง
กายโดยสเปิร์ม”

โดย :
เจ้าหญิงสายรุ้ง

No comments: