พบร้านข้าวแกงใจบุญ คนจนคนตกงานและเด็กกินฟรี ส่วนลูกค้าทั่วไปขายแค่อิ่มละ 25 บาท ตักได้ไม่อั้นกี่จานก็ได้ กับหลากหลายเมนูราดข้าว สวนกระแสข้าวยากหมากแพง สองตายายเจ้าของร้านเผยไม่คิดเอากำไรทำไปเพราะถือเป็นการให้ทาน และตัวเองเคยยากจนมาก่อน มีลูกค้าหลายระดับอุดหนุนแน่นร้านทุกวัน ต่างชื่นชอบในความอร่อยและราคาถูก
เมื่อวันที่ 30 มี.ค. ผู้สื่อข่าวได้เดินทางยังร้านข้าวแกง "ป้าปุ๊ก" อยู่ริมถนนสุขุมวิท ต.กระเฉด อ.เมือง ระยอง ห่างจากสี่แยกกระเฉดไปประมาณ 20 เมตร หลังมีคนร่ำลือว่าเป็นข้าวแกงที่มีราคาถูก และยังให้คนยากจน คนตกงาน และเด็กกินฟรี
เมื่อไปถึงร้านดังกล่าว ซึ่งเป็นร้านในลักษณะเพิงริมทาง ในร้านพบลูกค้าจำนวนมากกำลังเดินตักแกงด้วยตัวเองกันแน่นร้าน โดยมีเจ้าของร้านคือนางสุนันท์ วรานุตระกูล อายุ 66 ปี และนายพินิจ วรานุตระกูล อายุ 76 ปี สองตายาย กำลังนำแกงมาเทเสริมให้กับลูกค้า
นางสุนันท์เปิดเผยว่า ตนเองและสามีได้เปิดร้านขายข้าวแกงบุฟเฟ่ต์อิ่มละ 25 บาท มาประมาณ 2 ปีแล้ว โดยไม่คิดถึงผลกำไร คิดเพียงว่า ลูกค้าอิ่ม เราอยู่ได้ก็เพียงพอแล้ว ซึ่งถือว่าเป็นการให้ทาน หลายปีก่อนเคยขายแบบปกติ แต่ที่เริ่มมาขายแบบตักได้ไม่อั้น เพราะเคยมีคนขับรถสิบล้อมาแวะกิน แล้วบอกว่ากินจานเดียวไม่อิ่มเงินไม่พอ ตนเองก็สงสารจึงได้ให้ตักเพิ่มเอาเอง จะกินอีกกี่จานก็ได้ แถมผักน้ำพริกกะปิให้ฟรีด้วย คิดราคาเดียวคือ 25 บาท จากนั้นก็ทำเรื่อยมา ทุกวันจะมีเด็กและคนยากจน รวมถึงคนตกงานที่อยู่ในหมู่บ้านมากิน ก็จะให้กินฟรีไม่คิดเงิน วันไหนแกงเหลือก็จะอุ่นแล้วนำไปแจกจ่ายให้กับชาวบ้านที่ยากจนกิน รู้สึกมีความสุขที่ได้ทำแบบนี้ ส่วนบรรดาลูกๆ ทั้ง 5 คนต่างก็ต้องการให้ตนเองพักผ่อน แต่ตนยังอยากทำ เพราะถือเป็นการออกกำลังกายไปด้วย
นางสุนันท์กล่าวว่า สำหรับตนทุกวันจะตื่นตั้งแต่ 04.00 น. ไปซื้อข้าวของมาแกงกันสองคนตายาย สามีจะเป็นคนหุงข้าว หั่นผักหั่นหมู ส่วนตนเองเป็นคนปรุง ทุกวันมีเมนู 8-10 อย่าง ทั้งแกง ต้มยำ ต้มจืด ปลาทอด ไข่ดาว ส่วนน้ำพริกพร้อมผักให้กินฟรี ลูกค้ามีหลายระดับที่มาอุดหนุน บางคนสนิทสนมกันเหมือนกับคนในครอบครัว ช่วยกันยกข้าวยกแกงมาเติมให้ด้วย ทุกคนได้กินจนอิ่มไม่จำกัด จะกินกี่จานก็ได้
ด้านนายพินิจ กล่าวว่า เคยประกอบอาชีพมาหลายอย่าง จนกระทั่งกลับมาอยู่ที่บ้านทำสวนยางพารา เมื่อลูกๆทุกคนมีอาชีพกันทุกคนจึงหมดห่วง และเมื่อได้คุยกับป้าจึงได้เปิดร้านขายข้าวแกงขึ้นมา เพราะป้าเป็นแม่ครัวเก่า มีฝีมือในการทำกับข้าว ทุกวันนี้รู้สึกสนุกและมีความสุขที่ได้เห็นคนมากินแล้วอิ่มในราคาไม่แพง ชีวิตตนเคยจนมาก่อน ถึงขนาดข้าวสารไม่มีกรอกหม้อ จึงต้องการช่วยเหลือคนจนในยุคที่เศรษฐกิจไม่ดี ร้านข้าวแกงนี้จะทำต่อไปจนทำไม่ไหว เรื่องกำไรนั้นแทบไม่ต้องพูดถึง ยิ่งข้าวของแพงขึ้นด้วย แต่ไม่สนใจ ขอให้มีคนมากินอิ่มท้องก็พอใจแล้ว ถึงจะขาดทุนก็ตาม ถือเป็นการทำบุญให้ทาน
นางกุสุมา พันศรี อายุ 50 ปี ลูกค้าที่เข้ามาอุดหนุน กล่าวว่า ร้านนี้นับว่าเป็นร้านที่ใจบุญมาก ขนาดข้าวของแพงก็ยังขายในราคาถูก กับข้าวทุกอย่างล้วนแต่ใช้ของดีมาทำ ไม่น่าจะได้กำไร ก็นับว่าสองตายายเป็นคนดี ยอมเหนื่อยให้ลูกค้าได้กินของดีราคาประหยัด รวมถึงยังให้คนจนกินฟรีอีก บุคคลเช่นนี้นับว่าน่ายกย่องมาก
No comments:
Post a Comment