May 8, 2008

การสาบานและการสาปแช่ง




ช่วงที่ผ่านมาเราจะเห็นนักการเมืองทำการสาบานกันบ่อย
บ้างก็สาบานว่าจะไม่ซื้อเสียง บ้างก็สาบานว่าจะไม่โกง
การเลือกตั้ง หากผิดคำสาบานขอให้ตนมีอันเป็นไปต่างๆ
นาๆ ซึ่งหลายท่านคงอยากทราบว่าคำสาบานนั้นมีผลจริง
หรือไม่


การสาบานคือ การกล่าวแช่งตัวเองให้เป็นไปในเรื่อง
ไม่ดีถ้าตนทำเช่นนั้น
ส่วนการสาปแช่งจะหมายถึง
การที่คนอื่นมาแช่งให้เราเป็นเช่นนั้นเช่นนี้ ซึ่งหากเราไม่ได
้ทำความชั่วแล้วย่อมไม่มีผลแต่อย่างใด และในทางตรงข้าม
หากเราทำชั่วแล้วถึงไม่มีใครแช่ง ก็ต้องรับผลของกรรมชั่ว
อยู่ดี เพราะสัตว์ทั้งหลายย่อมมีกรรมเป็นของๆตน


ในพระไตรปิฏกก็มีการกล่าวถึง คนที่สาบานหรือพูดแช่ง
ตัวเองอยู่หลายกรณี อย่างเช่น หญิงสะใภ้ของพ่อค้าคน
หนึ่ง ที่อาศัยในหมู่บ้านไม่ไกลจากกรุงสาวัตถี หญิงคนนี้
ได้แอบกินเนื้อที่เก็บไว้สำหรับผู้อื่น เมื่อโดนซักไซร้กลับไม
่ยอมรับ และสบถคำสาบานว่า
"ถ้าเรากินเนื้อนั้นจริง ก็
ขอให้เราพึงเฉือนเนื้อสันหลังของตนแล้วกินทุก ๆภพไป
เถิด
" เมื่อหญิงผู้นี้ตายแล้วก็ไปเกิดเป็นเปรต และด้วย
ผลกรรม
จึงใช้เล็บที่ทั้งกว้างและยาว อีกทั้งคม กรีดเนื้อ
แผ่นหลังของตนเองกิน
เสวยทุกข์หาประมาณมิได้


เราจะเห็นได้ว่าการกล่าวคำสาบานนั้นไม่ใช่เรื่องที่จะทำ
กันเล่นๆเลย เพราะย่อมมีผลแน่นอน แม้บางครั้งจะ
ไม่เห็นผลในชาตินี้ แต่ย่อมให้ผลในชาติต่อๆไป
อย่าง
หลีกเลี่ยงไม่ได้


หากนักการเมืองบ้านเราหันมาสนใจศึกษาธรรมะกันมากขึ้น
ไม่เพียงแต่เอาพุทธพจน์มากล่าวอ้างกันโก้ๆอย่างที่หลาย
คนทำ ก็คงจะไม่กล้าสาบานกันพร่ำเพรื่ออย่างทุกวันนี้



ทีี่มา : Forward Mail DhammaSawasdee

No comments: