โดย kittipanan | วันที่ 26 พฤษภาคม 2554
หน้าฝนมาถึงแล้ว สำหรับผู้ที่ขับขี่รถยนต์ส่วนตั วในช่วงนี้คงต้องเพิ่มความระมั ดระวังให้มากยิ่งขึ้น เพราะอาจจะมีอันตรายที่ไม่คาดคิ ดเกิดขึ้นได้ง่ายกว่าในฤดูอื่นๆ ไม่ว่าคุณจะต้องสัญจรในเมืองหรื อวางแผนเดินทางไปเที่ยวไกลๆ ในช่วงที่อากาศกำลังเปลี่ ยนแปลงบ่อยๆ การขับรถบนถนนที่เปียกลื่นไม่ ใช่เรื่องง่าย
จึงขอนำเคล็ดลับที่น่ าสนใจมาฝากกัน เพื่อช่วยให้คุณเดินทางไปถึงจุ ดหมายและกลับบ้านได้อย่างปลอดภั ยในช่วงฤดูฝนนี้
- ตรวจสอบรถอย่างละเอียดก่ อนออกเดินทาง เบรก พวงมาลัย ระดับของเหลวต่างๆ ปริมาณลมยาง และระบบไล่ฝ้าควรได้รั บการตรวจสอบว่าอยู่ในสภาพพร้ อมใช้งานสำหรับการเดินทางที่ อาจต้องพบกับฝนที่ตกหนักระหว่ างทาง
- เตรียมอุปกรณ์ช่วยเหลือฉุกเฉิ นที่มีคุณภาพดีให้พร้อม การเตรียมรับมือกับเหตุการณ์ที่ ไม่คาดหมายเอาไว้ล่วงหน้าจะช่ วยลดค่าใช้จ่ายจากการใช้บริ การช่วยเหลือฉุกเฉินและช่ วยลดความตึงเครียดหากรถเสี ยระหว่างการเดินทาง อุปกรณ์ช่วยเหลือต่างๆ ควรตอบสนองต่อความต้องการของผู้ ขับขี่แต่ละคน ซึ่งโดยพื้นฐานแล้ วควรประกอบไปด้วย ยางอะไหล่ ไฟฉาย ฟิวส์ ที่สูบลม น้ำสะอาด อุปกรณ์ปฐมพยาบาลเบื้องต้น และป้ายสัญญาณขอความช่วยเหลือที ่มองเห็นเด่นชัด
- ตรวจสอบที่ปัดน้ำฝนให้อยู่ ในสภาพดีและพร้อมใช้งาน หากใบปัดน้ำฝนเสื่อมสภาพหรื อชำรุด ควรเปลี่ยนใหม่ทันทีเพื่อทัศนวิ สัยในการขับขี่ที่ดีในขณะฝนตก
- ขับอย่างระมัดระวัง! ใส่ใจในการขับขี่และรักษาระดั บความเร็วให้อยู่ในระดับที่ เหมาะสมอยู่เสมอ การขับรถด้วยความเร็วสูงเป็นสิ่ งที่ไม่เหมาะสมอย่างยิ่ง โดยเฉพาะในช่วงหน้าฝนที่น้ ำฝนอาจก่อตัวเป็นแผ่นน้ำบางๆ คั่นกลางระหว่างล้อและถนน ทำให้ความสามารถในการยึ ดเกาะถนนลดลง ผู้ขับขี่จึงควบคุมรถได้ยากขึ้น
- เปิดไฟหน้ารถขณะฝนตก เมื่อต้องขับรถในขณะฝนตกให้เปิ ดไฟหน้ารถเสมอ เพราะนอกจากจะช่วยให้คุณมองเห็ นสิ่งต่างๆ บนถนนได้ชัดเจนขึ้นแล้ว ยังช่วยให้รถคันอื่นๆ มองเห็นคุณได้จากระยะไกลด้วย
- หลีกเลี่ยงการเหยียบเบรกแรงๆ หรือการเบรกกระทันหัน การค่อยๆ เหยียบเบรกเพื่อชะลอความเร็ วลงนับว่าเป็นวิธีการขับขี่ที่ เหมาะสมที่สุด เพราะหากคุณเหยียบเบรกอย่างรุ นแรง รถอาจลื่นไถลได้
- ขับรถอย่างมีสติและเว้นระยะห่ างที่ปลอดภัยจากรถคันข้างหน้า ในยามที่ถนนเปียก คุณจะต้องใช้ เวลาและระยะทางในการเบรกเพิ่มขึ ้นเมื่อประสบกับสถานการณ์ฉุกเฉิ น การขับรถด้วยความระมัดระวั งและไม่ขับตามหลั งรถโดยสารขนาดใหญ่หรือรถบรรทุ กจะช่วยเพิ่มความปลอดภัยยิ่งขึ้ น เพราะล้อด้านหลังของรถขนาดใหญ่ มักจะปัดละอองน้ำมาใส่รถคันข้ างหลัง จนอาจทำให้เสียทัศนวิสัยในการขั บขี่ได้
- หลีกเลี่ยงแอ่งน้ำลึก คุณไม่มีทางทราบได้เลยว่าภายใต้ ผิวน้ำนั้นมีสภาพเป็นอย่างไรบ้ าง ถ้าคุณขับลงไปยังแอ่งน้ำด้ วยความเร็วสูง กันชนหน้าและหม้อน้ำอาจจะถู กกระแทกจนได้รับความเสียหายร้ ายแรง หรือถ้าคลื่นน้ำซัดเข้ามาในห้ องเครื่องก็อาจจะทำให้เครื่ องยนต์ดับได้
- ตื่นตัวกับสัญญาญเตือนให้หยุ ดรถหรืออุปสรรคที่ขวางอยู่บนถนน หากพบว่าถนนข้างหน้ามีน้ำท่วมขั ง พยายามอย่าขับรถฝ่าไป โดยเฉพาะในพื้นที่ที่คุณไม่คุ้ นเคย ให้มองหาเส้นทางใหม่ที่ปลอดภั ยกว่า
- ขับช้าๆ เมื่อต้องฝ่าน้ำท่วม หากคุณจำเป็นต้องขับฝ่าน้ำที่ท่ วมขังบนพื้นถนนนิ่งๆ ให้ขับไปอย่างช้าๆ อย่าขับรถฝ่าน้ำที่กำลังไหลอยู่ หากคุณไม่ทราบว่าแอ่งน้ำนั้นลึ กขนาดไหน หยุดรถก่อนที่จะถึงบริเวณน้ำท่ วมและตรวจสอบความลึกของน้ำ ซึ่งโดยทั่วไป หากระดับน้ำสูงกว่าขอบประตู รถหรือสูงกว่า 1 ใน 3 ของล้อเมื่อวัดจากพื้นถนน คุณไม่ควรขับฝ่าไปอย่างเด็ดขาด
- เมื่อรถติดหล่ม ให้เปลี่ยนมาใช้เกียร์ 1 หรือเกียร์ 2 และเร่งเครื่องช้าๆ อย่าเร่งเครื่องแรงจนทำให้ล้ อหมุนฟรี เพราะจะทำให้รถของคุณจมลึ กลงไปอีก
- การเปลี่ยนเกียร์ต่ำกะทันหั นขณะฝนตกเป็นสิ่งที่อันตรายอย่ างยิ่ง ขณะที่พื้นถนนเปียก การเปลี่ยนเกียร์อย่างรวดเร็วซึ ่งส่งผลกระทบต่อความเร็วของล้ อและยางอาจทำให้รถของคุณลื่นไหล คุณอาจสูญเสียการควบคุมรถและก่ อให้เกิดอุบัติเหตุได้ง่าย ผู้ขับขี่ควรใช้ความระมัดเพิ่ มขึ้นเมื่อต้องการเปลี่ยนมาใช้ เกียร์ต่ำขณะขับบนถนนลื่นๆ โดยเฉพาะเมื่อต้องขับรถขึ้นเนิ นที่มีความลาดชัน
ที่มา : thaipr.net
No comments:
Post a Comment