Jun 18, 2008

ทำไมนากิสถึงไม่พัดเข้าประเทศไทย?



ขออนุญาตนำกระแสพระราชดำรัสของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ
มาเล่าสู่กันฟังครับ

เมื่อวันศุกร์ผมได้มีโอกาศได้เข้าค่ายที่ศูนย์ฝึกทหารของค่ายนเรศวร

วันแรกที่เข้าไปก่ะบรรยากาศครึ้มๆ ผมก็ว่าเอ... แปลกๆ นะ ทำไม
อากาศอบอ้าวเหมือนจะมีฝน แต่ก็คิดว่าคงเป็นไปตามสภาพอากาศ
พอไปถึงก็ทำกิจกรรมจนได้เข้าหอประชุมตอนดึกใกล้เวลานอนมากแล้ว
อาจารย์เอกราช ท่านได้มาพูดถึงเรื่องของฝนที่ตกนี้ว่า
'ก่อนหน้านี้ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ ท่านทรงให้คณะทำงาน

เกี่ยวกัยฝนเทียม รีบทำฝนเทียมเพื่อเป็นแนวกันลมพายุดีเปรสชั่น
ซึ่งตอนนั้นยังไม่เกิดขึ้น แต่พระองค์ทรงเหมือนกับเทวดาองค์นึงที่
ทราบเรื่องนี้ก่อน
ถามว่าตอนนั้นกรมอุตุรู้เรื่องนี้ไม๊ .. ไม่มีใครทราบว่าจะเกิดพายุ

ที่ประเทศเมียนม่า (พม่า) ด้วยซ้ำ
พอคณะทำงานด้านฝนเทียมทำงานเสร็จ ด้วยความสำเร็จ...

ผลงานที่พระองค์ได้ทำ ก็ก่อให้เกิดผล เกิดพายุอย่างที่พระองค์
ตรัสไว้ ที่พม่า และพายุนี้ก็ได้สร้างความเสียหาย และสร้างความ
เดือดร้อนให้กับประเทศเมียนมาร์ (พม่า) จนทำให้เกิดความสูญ
เสียอันมหาศาลกับประเทศอันเคยเป็นอริกับเรา .. แต่สำหรับ
ประเทศไทย แนวกำแพงฝนเทียมที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ
ได้ทรงสร้างไว้ก็ทำให้เกิดฝนตกเพียงเล็กน้อย ถ้าเทียบกับพายุที่
จริงๆแล้วสามารถสร้างความเดือดร้อนกับประเทศได้มาก
พอผมได้ทราบผมถึงกับอึ้งขนลูกซู่กับสิ่งที่พระองค์ได้ทำไว้ให้กับ

ประเทศของเรา ถึงแม้นจะเป็นเรื่องที่ดีที่ทราบเรื่องนี้ แต่ก็มีเรื่องที่
ทำให้ผมสะเทือนใจกับสิ่งที่บ้านเมืองเป็นแบบนี้
วันที่ 2 ที่เข้าค่าย ครูฝึกได้เปิดวีซีดีเกี่ยวกับพระองค์ให้ดู ผมก็ดู

ไปเรื่อยๆ จนถึงตอนนึงที่เค้าตัดเอาตอนที่พระองทรงเสด็จพระราช
ดำเนิน เพื่อไปส่งเหล่ากษัตริย์จากต่างประเทศ คณะทูตที่มาเข้าเฝ้า
ในงานฉลองศิริราชสมบัตครบ 60 พรรษา ภาพที่ทำให้ผมปวดจี๊ด
ขึ้นมาในหัวใจก็คือ

ตอนที่พระองค์ทรงเสด็จพระราชดำเนินลงบันได
(ขอโทษครับพอดีไม่ทราบว่าเขียนยังไง) พระองค์เกือบหกล้ม
ดีที่ทหารรักษาพระองค์ที่เดินนำหน้าคอยประคองพระองค์ไว้
พอพระองค์ทรงยืนได้ ก็ปัดมืออก ผมไม่ทราบว่าพระองค์ตรัสตรง
นั้นทันทีไม๊ หรือตรัสกับคนสนิทในภายหลังว่า

"ไม่ต้องมาพยุงเรา เราจะเดินให้คนทั่วโลกได้เห็นว่า เราเดินได้
ให้คนทั่วโลกได้เห็นว่าเราสามารถปกครองคน64ล้านคนด้วยตัว
ของเราเองได้"

ถึงตอนนี้แล้ว ..น้ำตาผมคลอเบ้า คนที่ดูกันก็สะอึ้นกันไปหลายคน
ทุกๆคนในที่นั้นเงียบหมดกับคำพูดที่พระองค์ได้ตรัสไว้ ผมได้ยิน
เสียงกระซิบจากเพื่อนข้างๆว่า สงสารพระองค์ที่ต้องมาทรงงาน
อย่างหนัก ถึงแม้นจะอายุเยอะแล้ว แต่พระองค์ก็ยังทรงรักและ
เป็นห่วงลูกหลานของพระองค์ ลูกๆหลานๆที่อยู่ในประเทศนี้ ท่าน
ทรงงานทุกอย่างเพื่อให้คนในประเทศได้สบาย เพื่อคนในประเทศ
ได้อยู่ดีกินดี

อาจารย์ได้บอกกับพวกเราเมื่อวีซีดจบว่า พระองค์เหมือนฝนที่ทำ
ให้ประเทศร่มเย็น เหมือนเทวดาที่ไม่ว่าจะเสด็จพระราชดำเนินไป
ที่ไหนที่นั่นจะชุ่มฉ่ำ ที่ๆ พระองค์เสด็จพระราชดำเนินไปจะพบแต่
ความสงบสุข มีแต่เรื่องดีๆเกิดขึ้นไม่ว่าจะเกิดปัญหาอะไร ท้ายสุด
นี้ผมอยากจะบอกพระองค์หากแม้นมีใครผ่านมาอ่าน ถึงจะเป็นคำ
พูดที่อาจจะได้ยินมาบ่อยๆ แต่ผมก็ไม่สามารถจะคัดกรองคำพูดใดๆ
มาพูดได้อีกนอกจาก

"ขอพระองค์ทรงเป็นมิ่งขวัญของปวงประชา เป็นร่มโพธิทองของ
เหล่าปวงชนชาวไทย ขอพระองค์ทรงพระเจริญตราบนานเท่านาน"


Forward Mail










No comments: